รีวิว Netflix: 7 หนังน่าดูบน Netflix ที่ห้ามพลาดปี 2024


รีวิว Netflix: 7 หนังน่าดูบน Netflix ที่ห้ามพลาดปี 2024

สารบัญ

ปี 2024 ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองสำหรับแพลตฟอร์มสตรีมมิงยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix ที่ยังคงนำเสนอคอนเทนต์คุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง บทความนี้จะทำการ รีวิว Netflix: 7 หนังน่าดูบน Netflix ที่ห้ามพลาดปี 2024 โดยคัดสรรภาพยนตร์หลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นหนังใหม่แกะกล่อง, ภาพยนตร์ที่ยังคงได้รับความนิยมข้ามปี, หรือหนังรางวัลที่ควรค่าแก่การรับชม เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคอหนังที่กำลังมองหาความบันเทิงชั้นเยี่ยมบนหน้าจอ

ไฮไลท์หนังเด็ดที่คัดสรรมาเพื่อคุณ

รีวิว Netflix: 7 หนังน่าดูบน Netflix ที่ห้ามพลาดปี 2024 - netflix-7-must-watch-movies-2024

  • ภาพยนตร์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์: พบกับการตีความเทพนิยายใหม่ใน Damsel ที่มาพร้อมฉากแอ็กชันสุดระทึกและพลังของตัวละครหญิงที่แข็งแกร่ง
  • หนังชีวประวัติสร้างแรงบันดาลใจ: ติดตามเส้นทางการต่อสู้ทางการเมืองของสตรีผิวดำคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ใน Shirley
  • ดราม่าเข้มข้นสะท้อนชีวิต: สำรวจความสัมพันธ์และมิตรภาพในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตใน The Room Next Door และจิตวิทยาตัวละครที่ซับซ้อนใน The Power of the Dog
  • ความบันเทิงครบรส: ตั้งแต่หนังแอ็กชันไซไฟขวัญใจมหาชนอย่าง Bumblebee ไปจนถึงภาพยนตร์สืบสวนที่เปี่ยมด้วยชั้นเชิงอย่าง Glass Onion
  • แอนิเมชันระดับรางวัล: ดื่มด่ำกับจินตนาการสุดล้ำและความงดงามอันมืดมนของ Guillermo del Toro’s Pinocchio

การเลือกชมภาพยนตร์บน Netflix ในปี 2024 กลายเป็นกิจกรรมที่มากกว่าแค่ความบันเทิง แต่ยังเป็นการเปิดประสบการณ์และมุมมองใหม่ๆ ผ่านเรื่องราวที่หลากหลายและงานสร้างที่น่าทึ่ง แพลตฟอร์มนี้ได้รวบรวมผลงานจากผู้สร้างทั่วโลก ตั้งแต่ภาพยนตร์ทุนสร้างสูงไปจนถึงหนังอินดี้ที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ผู้ใช้สามารถค้นพบภาพยนตร์ที่ตรงกับรสนิยมของตนเองได้อย่างง่ายดาย

รายการภาพยนตร์แนะนำในบทความนี้ถูกคัดเลือกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นระทึกขวัญ, ผู้ที่มองหาเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ, หรือผู้ที่ต้องการภาพยนตร์ที่กระตุกต่อมความคิดและทิ้งคำถามให้ขบคิดต่อหลังดูจบ แต่ละเรื่องล้วนมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Netflix ในการเป็นคลังภาพยนตร์คุณภาพสำหรับทุกคน

เจาะลึก 7 ภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดบน Netflix ในปี 2024

ต่อไปนี้คือบทวิจารณ์เจาะลึกสำหรับภาพยนตร์ 7 เรื่องที่คอหนังไม่ควรพลาดบน Netflix ประจำปี 2024 ซึ่งครอบคลุมหลากหลายแนวและอารมณ์ เพื่อให้การเลือกชมภาพยนตร์ของคุณครั้งต่อไปเต็มไปด้วยคุณภาพและความประทับใจ

1. Damsel: เจ้าหญิง มังกร และเปลวเพลิง

Damsel คือการฉีกขนบเทพนิยายเจ้าหญิงที่รอคอยเจ้าชายมาช่วยเหลือแบบเดิมๆ ไปอย่างสิ้นเชิง ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของ เอโลดี้ (รับบทโดย มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์) เจ้าหญิงสูงศักดิ์ที่ตอบตกลงแต่งงานกับเจ้าชายรูปงามเพื่อช่วยเหลืออาณาจักรของตน แต่แล้วเธอกลับพบว่าทั้งหมดเป็นเพียงแผนการร้ายเพื่อใช้เธอเป็นเครื่องสังเวยให้กับมังกรไฟในหุบเขาลึก เอโลดี้ต้องเปลี่ยนจาก “Damsel in Distress” (หญิงสาวในห้วงอันตราย) มาเป็นนักสู้ที่ต้องใช้สติปัญญาและความกล้าหาญเพื่อเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง

จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการสร้างโลกแฟนตาซีที่มืดมนและอันตราย งานภาพและเทคนิคพิเศษทำได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะการออกแบบมังกรที่ดูน่าเกรงขามและสมจริง การแสดงของมิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์ สามารถแบกรับภาพยนตร์ทั้งเรื่องไว้ได้อย่างน่าชื่นชม เธอถ่ายทอดพัฒนาการของตัวละครจากหญิงสาวผู้เรียบร้อยไปสู่นักรบผู้แข็งแกร่งได้อย่างทรงพลัง หนังไม่ได้เน้นแค่ฉากแอ็กชันเอาชีวิตรอด แต่ยังสอดแทรกประเด็นเรื่องการทรยศ, การพึ่งพาตนเอง และการทลายกำแพงประเพณีที่กดขี่ผู้หญิง

Damsel ไม่ใช่แค่หนังแฟนตาซีทั่วไป แต่เป็นเหมือนคำประกาศอิสรภาพของผู้หญิง ที่บอกว่าพวกเธอไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาช่วย แต่สามารถเป็นฮีโร่ในเรื่องราวของตัวเองได้

คะแนนรีวิว: 8/10

★★★★★★★★☆☆

การพลิกโฉมเทพนิยายที่ดุดันและทรงพลัง แม้บทจะเดินตามสูตรสำเร็จไปบ้าง แต่การแสดงของมิลลี่และงานภาพที่อลังการก็ทำให้หนังเรื่องนี้ควรค่าแก่การรับชม

2. Shirley: สตรีเหล็กผู้ท้าทายประวัติศาสตร์

Shirley พาผู้ชมย้อนกลับไปในปี 1972 เพื่อติดตามเรื่องราวชีวิตจริงของ เชอร์ลีย์ ชิสโฮล์ม (รับบทโดย เรจินา คิง) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงผิวดำคนแรกของสหรัฐอเมริกา ที่สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการลงสมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อเข้าแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ภาพยนตร์ไม่ได้เล่าเพียงแค่ความสำเร็จ แต่เจาะลึกไปถึงอุปสรรค, การเหยียดเชื้อชาติและเพศ, และการต่อสู้ทางการเมืองที่เธอต้องเผชิญหน้าอย่างไม่เกรงกลัว

เรจินา คิง มอบการแสดงที่ยอดเยี่ยมในบทบาทนี้ เธอถ่ายทอดจิตวิญญาณนักสู้, ความฉลาดหลักแหลม และความมุ่งมั่นของเชอร์ลีย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับเส้นทางการต่อสู้ของเธอ บทภาพยนตร์เขียนได้อย่างชาญฉลาด โดยเน้นไปที่เบื้องหลังแคมเปญหาเสียงที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจของเธอในครั้งนั้นได้ปูทางให้กับนักการเมืองรุ่นหลังมากมาย หนังเรื่องนี้จึงเป็นมากกว่าหนังชีวประวัติ แต่เป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญและสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างมหาศาล

คะแนนรีวิว: 9/10

★★★★★★★★★☆

ภาพยนตร์ชีวประวัติชั้นเยี่ยมที่ขับเคลื่อนด้วยการแสดงอันทรงพลังของเรจินา คิง เป็นเรื่องราวที่ทุกคนควรได้รับรู้เพื่อเข้าใจการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม

3. The Room Next Door: มิตรภาพและความหมายของชีวิต

The Room Next Door เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่สำรวจความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างเพื่อนสองคนในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุดของชีวิต เรื่องราวติดตามมิตรภาพของเพื่อนที่คนหนึ่งกำลังเผชิญกับโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะจบชีวิตตนเองด้วยความสมัครใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาผู้ชมไปสำรวจธีมของความตาย, การปล่อยวาง, และความหมายที่แท้จริงของคำว่า “เพื่อน” อย่างละเอียดอ่อน

หนังโดดเด่นด้วยบทสนทนาที่คมคายและสมจริง ซึ่งจะทำให้ผู้ชมต้องขบคิดถึงประเด็นทางศีลธรรมและจริยธรรมที่ซับซ้อน การแสดงของนักแสดงนำทั้งสองคนเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เรื่องราวดูน่าเชื่อถือและสะเทือนอารมณ์ แม้จะเป็นเรื่องราวที่หนักหน่วง แต่ผู้กำกับสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างนุ่มนวล ไม่ฟูมฟายจนเกินไป แต่กลับทิ้งร่องรอยความรู้สึกไว้ในใจผู้ชมได้อย่างยาวนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ดราม่าที่เน้นการพัฒนาตัวละครและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง

คะแนนรีวิว: 8.5/10

★★★★★★★★◐☆

ดราม่าที่งดงามและบีบคั้นหัวใจ ตั้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับชีวิตและความตายได้อย่างทรงพลัง การแสดงที่ยอดเยี่ยมทำให้หนังเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน

4. The Power of the Dog: อำนาจและจิตวิทยาในแดนคาวบอย

แม้จะเข้าฉายมาตั้งแต่ปี 2021 แต่ The Power of the Dog ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่ต้องดูบน Netflix ในปี 2024 ด้วยคุณภาพระดับรางวัลออสการ์ กำกับโดย เจน แคมเปียน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวจิตวิทยา-ตะวันตกที่เล่าเรื่องราวของ ฟิล เบอร์แบงก์ (รับบทโดย เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์) คาวบอยเจ้าของฟาร์มผู้มีบุคลิกแข็งกร้าวและน่าเกรงขาม ที่ชีวิตต้องเปลี่ยนไปเมื่อน้องชายของเขาพาสะใภ้ใหม่และลูกชายของเธอเข้ามาอยู่ในบ้าน ความตึงเครียดที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นได้เปิดเปลือยบาดแผลในจิตใจและตัวตนที่ถูกเก็บซ่อนไว้ของแต่ละคน

หนังดำเนินเรื่องอย่างเชื่องช้า แต่มันคือความเชื่องช้าที่เต็มไปด้วยความหมาย ทุกการกระทำ ทุกสายตา และทุกบทสนทนาล้วนมีความสำคัญและสร้างบรรยากาศที่อึดอัดกดดันได้อย่างยอดเยี่ยม การแสดงของเบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ถือเป็นระดับมาสเตอร์พีซที่ถ่ายทอดความซับซ้อนของตัวละครออกมาได้อย่างน่าทึ่ง งานภาพในเรื่องงดงามราวกับภาพวาด ถ่ายทอดความเวิ้งว้างและโดดเดี่ยวของทิวทัศน์ในมอนแทนาได้อย่างทรงพลัง นี่คือภาพยนตร์ที่ต้องใช้สมาธิในการรับชมและตีความ แต่รางวัลที่ได้กลับมาคือประสบการณ์ทางภาพยนตร์ที่ล้ำลึกและน่าจดจำ

คะแนนรีวิว: 9.5/10

★★★★★★★★★◐☆

ผลงานศิลปะชั้นครูที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดทางจิตวิทยา การกำกับที่เฉียบคมและการแสดงที่ไร้ที่ติ ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษ

5. Bumblebee: การกลับมาของหุ่นยนต์ขวัญใจมหาชน

สำหรับแฟนหนังแอ็กชันไซไฟ Bumblebee คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ แม้จะเป็นหนังจากปี 2018 แต่ก็ยังคงความสนุกและน่าประทับใจไม่เสื่อมคลาย ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการรีบูทและเล่าเรื่องราวจุดกำเนิดของหุ่นยนต์ออโตบ็อตส์ขวัญใจมหาชน ย้อนกลับไปในปี 1987 บัมเบิ้ลบีได้หลบหนีมายังโลกและซ่อนตัวอยู่ในร่างรถเต่าโฟล์คสวาเกน ก่อนจะได้พบกับ ชาร์ลี (เฮลีย์ สไตน์เฟลด์) หญิงสาววัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวตน ทั้งสองได้สร้างมิตรภาพที่น่าประทับใจขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องหลบหนีการตามล่าจากทั้งกองทัพสหรัฐฯ และหุ่นยนต์ดีเซปติคอนส์

สิ่งที่ทำให้ Bumblebee แตกต่างจากหนัง Transformers ภาคอื่นๆ คือการลดสเกลความวินาศสันตะโรลง แล้วหันมาเน้นที่หัวใจของเรื่องราวและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแทน หนังมีเสน่ห์แบบหนังยุค 80s อย่างเต็มเปี่ยม ทั้งเพลงประกอบและบรรยากาศต่างๆ ทำให้รู้สึกอบอุ่นและชวนให้คิดถึงอดีต ฉากแอ็กชันยังคงทำได้น่าตื่นเต้นแต่ไม่สับสนวุ่นวายเท่าภาคก่อนๆ ทำให้ผู้ชมสามารถติดตามเรื่องราวได้ง่ายขึ้น นี่คือหนังที่มอบความบันเทิงได้อย่างครบรส ทั้งแอ็กชัน, ตลก, และดราม่าซึ้งๆ ที่ดูได้ทั้งครอบครัว

คะแนนรีวิว: 8/10

★★★★★★★★☆☆

การรีบูทที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม นำหัวใจและจิตวิญญาณกลับมาสู่แฟรนไชส์ Transformers อีกครั้ง เป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ที่สนุกและมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ

6. Glass Onion: A Knives Out Mystery – ปริศนาซับซ้อนบนเกาะสวรรค์

การกลับมาของนักสืบเบอนัวต์ บลองก์ (แดเนียล เคร็ก) ในคดีฆาตกรรมปริศนาครั้งใหม่ที่ย้ายฉากจากคฤหาสน์เก่าแก่มาสู่เกาะส่วนตัวสุดหรูในกรีซ Glass Onion ยังคงรักษามาตรฐานความสนุกและชั้นเชิงของภาคแรกไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อมหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยี ไมล์ส บรอน เชิญกลุ่มเพื่อนสนิทมาร่วมเล่นเกมไขคดีฆาตกรรมบนเกาะของเขา แต่แล้วเกมก็กลับกลายเป็นเรื่องจริงเมื่อมีคนถูกฆ่าตาย บลองก์จึงต้องใช้ไหวพริบอันเฉียบคมเพื่อกระเทาะเปลือกของคำโกหกและค้นหาตัวฆาตกรที่แฝงตัวอยู่ในหมู่เพื่อน

ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นด้วยบทที่เขียนมาอย่างชาญฉลาด เต็มไปด้วยการหักมุมที่คาดไม่ถึงและบทสนทนาที่เสียดสีสังคมคนรวยได้อย่างเจ็บแสบ ทีมนักแสดงระดับแนวหน้าต่างทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมและสร้างสีสันให้กับเรื่องราว งานสร้างมีความหรูหราอลังการสมกับฉากหลังที่เป็นเกาะสวรรค์ หนังมีความซับซ้อนเหมือนหัวหอมที่ต้องค่อยๆ ปอกเปลือกทีละชั้นเพื่อเข้าถึงความจริงตรงกลาง ซึ่งทำให้ผู้ชมต้องคอยติดตามและคาดเดาไปพร้อมกับตัวละครตลอดทั้งเรื่อง เป็นหนังแนวสืบสวนที่ทั้งสนุก มีสไตล์ และฉลาดหลักแหลม

คะแนนรีวิว: 9/10

★★★★★★★★★☆

ภาคต่อที่ยังคงความยอดเยี่ยมไว้ได้ทุกอณู บทภาพยนตร์ที่หลักแหลม ทีมนักแสดงที่เข้าขา และปริศนาที่ซับซ้อนน่าติดตาม ทำให้เป็นหนังที่มอบความบันเทิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

7. Guillermo del Toro’s Pinocchio: พิน็อกคิโอในมุมมองที่มืดมนและงดงาม

นี่ไม่ใช่นิทานพิน็อกคิโอฉบับดิสนีย์ที่คุณคุ้นเคย ผู้กำกับระดับปรมาจารย์ กิเยร์โม เดล โตโร ได้นำนิทานคลาสสิกมาตีความใหม่ด้วยเทคนิคสต็อปโมชันอันน่าทึ่ง และใส่ฉากหลังเป็นอิตาลีในยุคฟาสซิสต์ของมุสโสลินี เรื่องราวของเจพเพ็ตโต ช่างไม้ผู้สูญเสียลูกชายไปในสงครามและได้สร้างหุ่นไม้ขึ้นมาเพื่อทดแทน แต่แล้วนางฟ้าก็มอบชีวิตให้แก่พิน็อกคิโอ หุ่นไม้ผู้ไม่สมบูรณ์แบบที่ต้องเรียนรู้การเป็น “เด็กดี” ท่ามกลางโลกที่โหดร้ายและเต็มไปด้วยการสูญเสีย

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณและความรัก งานสต็อปโมชันทำได้อย่างละเอียดประณีตและมีชีวิตชีวาอย่างน่าอัศจรรย์ บทภาพยนตร์มีความลุ่มลึกและมืดมนกว่าเวอร์ชันอื่นๆ โดยสำรวจประเด็นเรื่องชีวิต, ความตาย, การสูญเสีย, และการยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบของตนเองได้อย่างสะเทือนใจ เพลงประกอบและเสียงพากย์ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม นี่คือแอนิเมชันที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อเด็กเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลงานศิลปะที่ผู้ใหญ่สามารถซาบซึ้งและตกผลึกกับสารที่หนังต้องการจะสื่อได้อย่างเต็มเปี่ยม การันตีคุณภาพด้วยรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม

คะแนนรีวิว: 10/10

★★★★★★★★★★

ผลงานชิ้นเอกที่ผสมผสานความงดงามทางภาพและความลึกซึ้งทางอารมณ์ได้อย่างลงตัว เป็นการตีความนิทานคลาสสิกที่กล้าหาญและน่าจดจำไปตลอดกาล

ตารางเปรียบเทียบภาพยนตร์แนะนำ

ตารางนี้สรุปภาพรวมของภาพยนตร์ 7 เรื่องที่แนะนำบน Netflix ปี 2024 เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกชมตามความสนใจ
ภาพยนตร์ แนว จุดเด่นสำคัญ คะแนนรีวิว
Damsel แฟนตาซี / แอ็กชัน การฉีกขนบเทพนิยาย, ตัวละครหญิงแกร่ง 8/10
Shirley ชีวประวัติ / ดราม่า สร้างแรงบันดาลใจ, การแสดงของเรจินา คิง 9/10
The Room Next Door ดราม่า ประเด็นชีวิตและความตาย, ความสัมพันธ์ลึกซึ้ง 8.5/10
The Power of the Dog จิตวิทยา / ตะวันตก การแสดงระดับรางวัล, บรรยากาศกดดัน 9.5/10
Bumblebee แอ็กชัน / ไซไฟ เสน่ห์ยุค 80s, ความสัมพันธ์อบอุ่นหัวใจ 8/10
Glass Onion สืบสวน / ตลกร้าย บทภาพยนตร์ชาญฉลาด, การหักมุมที่คาดไม่ถึง 9/10
Guillermo del Toro’s Pinocchio แอนิเมชัน / ดราม่า งานภาพสต็อปโมชัน, เนื้อเรื่องลึกซึ้งและมืดมน 10/10

บทสรุป: คลังภาพยนตร์คุณภาพบนปลายนิ้ว

จาก รีวิว Netflix: 7 หนังน่าดูบน Netflix ที่ห้ามพลาดปี 2024 จะเห็นได้ว่า Netflix ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มอบความบันเทิงคุณภาพสูงและหลากหลายให้กับผู้ชมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ใหม่ล่าสุดที่สร้างกระแส, หนังรางวัลที่ยังคงคุณค่าข้ามกาลเวลา, หรือภาพยนตร์ที่มอบความสนุกสนานครบรส รายการทั้ง 7 เรื่องที่คัดเลือกมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคลังภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่รอให้คุณไปสำรวจ

การเลือกชมภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับรสนิยมไม่เพียงแต่ช่วยผ่อนคลาย แต่ยังเปิดโลกทัศน์และมอบประสบการณ์ทางอารมณ์ที่แตกต่างกันไป หวังว่าบทวิจารณ์และคำแนะนำเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกชมภาพยนตร์เรื่องต่อไปของคุณบน Netflix และทำให้ช่วงเวลาแห่งความบันเทิงของคุณเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและความประทับใจ


บทความรีวิวมาใหม่