ai generated 42

รีวิว Under Paris ฉลามคลั่งปารีส มันส์หรือเพี้ยน?

ภาพยนตร์เรื่อง Under Paris (Sous la Seine) ได้สร้างปรากฏการณ์กลายเป็นหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็วบนแพลตฟอร์ม Netflix ด้วยแนวคิดที่ท้าทายขนบของหนังฉลามแบบดั้งเดิม การนำเพชฌฆาตแห่งท้องทะเลมาอาละวาดในแม่น้ำเซนใจกลางกรุงปารีส ถือเป็นจุดขายที่ทั้งสร้างสรรค์และน่าฉงนในเวลาเดียวกัน บทความนี้จะวิเคราะห์เจาะลึกถึงองค์ประกอบต่างๆ ของภาพยนตร์ เพื่อตอบคำถามสำคัญว่าผลลัพธ์สุดท้ายของความบ้าระห่ำนี้ส่งมอบความบันเทิงสุดระทึก หรือเป็นเพียงความพยายามที่เพี้ยนจนหลุดโลก

ประเด็นสำคัญในบทวิเคราะห์

  • การฉีกกรอบหนังฉลาม: การย้ายสมรภูมิจากมหาสมุทรมาสู่แม่น้ำในเมืองใหญ่ สร้างมิติใหม่ของความสยองขวัญที่ใกล้ตัวและคาดไม่ถึง
  • ความระทึกขวัญและความสมจริง: ภาพยนตร์โดดเด่นในฉากแอ็กชันไล่ล่าที่เข้มข้น โดยเฉพาะในช่วงท้าย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการลดทอนความสมจริงของตรรกะและเหตุผล
  • สัญลักษณ์และการเสียดสีสังคม: เนื้อหาแฝงนัยถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของภาครัฐที่มักเพิกเฉยต่อคำเตือนทางวิทยาศาสตร์เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
  • บทสรุปที่สร้างเสียงวิจารณ์: ตอนจบของเรื่องกลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างกว้างขวาง ด้วยการเลือกเส้นทางที่เหนือจริงและทิ้งท้ายอย่างค้างคา ซึ่งอาจถูกใจผู้ชมบางกลุ่มแต่ก็สร้างความขัดใจให้ผู้ชมอีกส่วนหนึ่ง

ภาพรวมและความรู้สึกแรก

รีวิว Under Paris ฉลามคลั่งปารีส มันส์หรือเพี้ยน? - review-under-paris-netflix-shark

Under Paris หรือในชื่อภาษาไทย มฤตยูใต้ปารีส คือภาพยนตร์แอ็กชัน-สยองขวัญสัญชาติฝรั่งเศส กำกับโดย ซาวิเยร์ Gens ที่เล่าเรื่องราวของโซเฟีย (เบเรนิซ เบโจ) นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลผู้มีบาดแผลในใจจากการสูญเสียทีมวิจัยให้กับฉลามยักษ์นามว่า “ลิลิธ” สามปีต่อมา โซเฟียพบว่าลิลิธไม่เพียงแต่รอดชีวิต แต่ยังปรับตัวให้อาศัยอยู่ในน้ำจืดได้ และกำลังเดินทางมายังแม่น้ำเซน กลางกรุงปารีส ก่อนการแข่งขันไตรกีฬาระดับโลกจะเริ่มต้นขึ้น เธอจึงต้องร่วมมือกับ อาดิล (นัสซิม ลีเยส) ตำรวจหน่วยลาดตระเวนแม่น้ำ เพื่อหยุดยั้งหายนะครั้งใหญ่ก่อนที่เมืองทั้งเมืองจะกลายเป็นนรกบนดิน ความรู้สึกแรกหลังชมคือความทึ่งในความกล้าของผู้สร้างที่นำเสนอพล็อตเรื่องที่ดูเหมือนจะหลุดโลก แต่กลับสามารถสร้างความระทึกขวัญได้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการใช้ฉากหลังที่เป็นเอกลักษณ์ของปารีสมาสร้างบรรยากาศของภัยคุกคามที่คืบคลานเข้ามาในพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด

บทวิจารณ์เชิงลึก

การวิเคราะห์ภาพยนตร์เรื่องนี้จำเป็นต้องมองผ่านเลนส์ที่หลากหลาย ทั้งในฐานะหนังบันเทิงกระแสหลัก และในฐานะภาพสะท้อนของประเด็นทางสังคมร่วมสมัย

โครงเรื่องและบท (Script & Plot)

ในแก่นแท้แล้ว โครงสร้างของ Under Paris เดินตามรอยพิมพ์ของภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดคลาสสิกอย่าง Jaws (1975) อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ นั่นคือการมีผู้เชี่ยวชาญที่พยายามส่งเสียงเตือน, เจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่เชื่อฟัง และมหันตภัยธรรมชาติที่รอวันปะทุ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้บทภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นคือการเปลี่ยนฉากหลังจากชายหาดที่คุ้นเคย มาเป็นเมืองหลวงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอย่างปารีส การตัดสินใจนี้ไม่เพียงสร้างความสดใหม่ แต่ยังเป็นการยกระดับเดิมพันทางความรู้สึกของผู้ชม เพราะมันคือการนำเอาความป่าเถื่อนมาปะทะกับสัญลักษณ์ของอารยธรรมโดยตรง

อย่างไรก็ตาม บทภาพยนตร์กลับสะดุดลงในแง่ของความสมเหตุสมผลหลายครั้ง การปรับตัวของฉลามให้อยู่ในน้ำจืดและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วนั้นถูกอธิบายเพียงผิวเผินผ่านทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่ลึกซึ้งพอ ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมที่ต้องการความสมจริงรู้สึกขัดใจ ประเด็นเรื่องมลพิษในแม่น้ำเซนที่ถูกนำมาใช้เป็นเหตุผลสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของฉลาม ก็ถูกนำเสนออย่างน่าสนใจในช่วงต้น แต่กลับถูกลดทอนความสำคัญลงเมื่อเรื่องราวดำเนินไปสู่ความเป็นแอ็กชันเต็มรูปแบบ

“Under Paris โหดจริง โหดทุกจังหวะที่ต้องโหด … แม้จะไม่มีอะไรใหม่ แต่ก็ปรุงรสชาติได้กลมกล่อม ถูกใจคนดูบางกลุ่มที่ต้องการหนังสัตว์ประหลาดในจังหวะบันเทิงล้วน ๆ”

จุดแข็งของบทอยู่ที่การเสียดสีสังคมอย่างเจ็บแสบ โดยเฉพาะการนำเสนอตัวละครนายกเทศมนตรีหญิงที่ดื้อรั้นและให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของการจัดงานไตรกีฬายิ่งกว่าความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของความล้มเหลวในการจัดการวิกฤตของผู้นำทางการเมืองในโลกแห่งความเป็นจริง ที่มักเพิกเฉยต่อคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญจนกว่าหายนะจะเกิดขึ้นตรงหน้า

การแสดงและตัวละคร (Casting & Character)

เบเรนิซ เบโจ (Bérénice Bejo) ในบท โซเฟีย สามารถแบกรับภาพยนตร์ไว้ได้อย่างมั่นคง เธอถ่ายทอดความซับซ้อนของตัวละครนักวิทยาศาสตร์ผู้มีบาดแผลทางจิตใจออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ ความขัดแย้งภายในระหว่างความรู้สึกผิดในอดีตกับความรับผิดชอบในปัจจุบันถูกแสดงผ่านแววตาและการแสดงออกที่ทรงพลัง ในขณะที่ นัสซิม ลีเยส (Nassim Lyes) ในบท อาดิล ตำรวจแม่น้ำ ก็เป็นตัวแทนของสามัญสำนึกและความกล้าหาญที่ผู้ชมสามารถเข้าถึงและเอาใจช่วยได้ง่าย เคมีระหว่างตัวละครทั้งสองแม้จะไม่ได้ลึกซึ้งในเชิงโรแมนติก แต่ก็สะท้อนถึงการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการเผชิญหน้ากับวิกฤต

ในทางกลับกัน ตัวละครกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมกลับถูกนำเสนอในลักษณะที่สร้างความอึดอัดและน่ารำคาญให้กับผู้ชมจำนวนมาก การกระทำที่ไร้เหตุผลและโลกสวยของพวกเขากลายเป็นตัวเร่งให้สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างไม่น่าให้อภัย อย่างไรก็ตาม หากมองในเชิงสัญลักษณ์ ตัวละครกลุ่มนี้อาจเป็นภาพแทนของ “อุดมการณ์อันบริสุทธิ์ที่ปราศจากความเข้าใจในความเป็นจริงอันโหดร้าย” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการวิพากษ์สังคมที่ภาพยนตร์ต้องการสื่อสาร ว่าบางครั้งเจตนาที่ดีก็อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดได้หากขาดซึ่งการไตร่ตรอง

งานสร้างและองค์ประกอบศิลป์ (Production Value)

ด้วยงบประมาณการสร้างที่สูงถึง 19.6 ล้านยูโร Under Paris มีคุณภาพงานสร้างที่ดูดีเกินกว่าจะเป็นภาพยนตร์เกรดบีทั่วไป การกำกับของ ซาวิเยร์ Gens ซึ่งมีประสบการณ์จากหนังแอ็กชันและสยองขวัญมาก่อน สามารถสร้างบรรยากาศกดดันและตื่นเต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในฉากใต้น้ำที่มืดมิดและจำกัดการมองเห็น ซึ่งเล่นกับความกลัวพื้นฐานของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

งานภาพ (Cinematography) ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น การถ่ายทอดภาพกรุงปารีสในมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งภาพความงดงามของสถาปัตยกรรมเหนือน้ำที่ตัดกับความขุ่นมัวและอันตรายที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำ สร้างคอนทราสต์ที่น่าสนใจ งานเทคนิคพิเศษ (CGI) ในการสร้างฉลามลิลิธอาจไม่สมบูรณ์แบบในทุกฉาก แต่ก็ทำได้ดีพอที่จะสร้างความน่าเกรงขามและสมจริงในฉากสำคัญๆ ดนตรีประกอบก็มีส่วนสำคัญในการสร้างอารมณ์ระทึกขวัญและเร่งเร้าจังหวะของเรื่องราวให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

ตารางสรุปการวิเคราะห์องค์ประกอบภาพยนตร์ Under Paris
องค์ประกอบ จุดเด่น จุดด้อย
โครงเรื่องและบท แนวคิดสร้างสรรค์, การเสียดสีสังคมที่เฉียบคม, จังหวะเรื่องที่รวดเร็วในช่วงท้าย ขาดความสมเหตุสมผล, สูตรสำเร็จที่คาดเดาได้, ประเด็นสิ่งแวดล้อมไม่ถูกขยี้ต่อ
การแสดงและตัวละคร การแสดงที่แข็งแกร่งของนักแสดงนำ (เบเรนิซ เบโจ), เคมีที่เข้ากันของคู่หูหลัก ตัวละครสมทบบางกลุ่มน่ารำคาญและขาดมิติ, การตัดสินใจของตัวละครไม่สมเหตุสมผล
งานสร้างและเทคนิค โปรดักชันคุณภาพสูง, งานภาพสวยงาม, การกำกับฉากแอ็กชันทำได้ตื่นเต้น CGI ฉลามมีจุดบกพร่องบ้างในบางฉาก
ความบันเทิง มอบความสนุกแบบสุดขั้วสำหรับคอหนังแอ็กชัน-สยองขวัญ, ฉากโหดดิบสะใจ ช่วงกลางเรื่องอาจมีความเนือย, ตอนจบที่หลุดโลกอาจทำลายอารมณ์ของผู้ชมบางส่วน

ฉาก/ไฮไลต์ที่น่าจดจำ

ฉากที่ตราตรึงและสรุปแก่นของภาพยนตร์ได้ดีที่สุดคือฉากการสำรวจรังฉลามในสุสานใต้ดินคาตาโคมส์ (Catacombs) ของปารีส ฉากนี้เป็นการผสมผสานระหว่างความสยองขวัญจากพื้นที่ปิดทึบ (Claustrophobia) กับความน่ากลัวของสัตว์ร้ายได้อย่างลงตัว ความมืดมิดของอุโมงค์ที่เต็มไปด้วยหัวกะโหลกและกระดูกมนุษย์นับล้านสร้างบรรยากาศที่น่าขนลุกอยู่แล้ว เมื่อบวกกับการปรากฏตัวของฉลามในพื้นที่ที่ไม่คาดฝัน มันจึงกลายเป็นฝันร้ายที่สมบูรณ์แบบ ผู้กำกับใช้ความเงียบและความมืดมาสร้างความระทึกได้อย่างเต็มที่ เสียงน้ำที่กระเพื่อมหรือเงาที่เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ผู้ชมสะดุ้งได้ ฉากนี้ไม่เพียงแต่เป็นฉากแอ็กชันที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการรุกล้ำของธรรมชาติเข้ามาถึงแก่นกลางประวัติศาสตร์และความตายของมนุษย์ เป็นการตอกย้ำว่าไม่มีที่ใดปลอดภัยอีกต่อไป

สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ

การประเมินภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสรุปเป็นข้อดีและข้อเสียที่ชัดเจนได้ดังนี้

สิ่งที่ชอบ (Pros)

  • แนวคิดและสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์: การนำฉลามมาไว้ในแม่น้ำเซนเป็นไอเดียที่สดใหม่และน่าสนใจ ทำให้ภาพยนตร์โดดเด่นจากหนังแนวเดียวกัน
  • ความบันเทิงแบบไม่ยั้งคิดในช่วงท้าย: 30 นาทีสุดท้ายของภาพยนตร์คือความวินาศสันตะโรที่มอบความตื่นเต้นแบบลืมหายใจ เหมาะสำหรับผู้ชมที่ต้องการความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดมาก
  • การเสียดสีสังคมและการเมือง: การวิพากษ์วิจารณ์ความล้มเหลวของภาครัฐและอุดมการณ์ที่ไร้เดียงสาถูกสอดแทรกเข้ามาอย่างเจ็บแสบ ทำให้หนังมีมิติมากกว่าแค่การหนีฉลาม

สิ่งที่ไม่ชอบ (Cons)

  • ตรรกะและเหตุผลที่ถูกมองข้าม: ภาพยนตร์เต็มไปด้วยช่องโหว่ทางตรรกะและการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผลของตัวละคร ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับสำหรับผู้ชมบางกลุ่ม
  • ตัวละครสมทบที่น่ารำคาญ: การกระทำของตัวละครบางกลุ่มสร้างความขัดใจและไม่ได้ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวไปในทางที่ดีขึ้น
  • ตอนจบที่หลุดโลกและทิ้งค้าง: การเลือกจบเรื่องแบบ “เล่นใหญ่” เกินเบอร์ ทำให้เกิดความรู้สึกทั้งทึ่งและส่ายหัวในเวลาเดียวกัน และทิ้งคำถามไว้มากมายโดยไม่มีคำตอบ

บทสรุปและคะแนน

สรุปแล้ว Under Paris คือภาพยนตร์ที่เดินอยู่บนเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความ “มันส์” กับความ “เพี้ยน” มันประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการเป็นหนังระทึกขวัญที่มอบความบันเทิงแบบเต็มสูบ ด้วยฉากแอ็กชันที่ดุเดือด แนวคิดที่แปลกใหม่ และการเสียดสีสังคมที่แหลมคม หากผู้ชมสามารถปลดปล่อยตรรกะและยอมรับในความเหนือจริงของมันได้ นี่คือภาพยนตร์ที่จะมอบประสบการณ์ที่สนุกและน่าจดจำเรื่องหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม หากมองหาความสมจริง ความลึกซึ้งของตัวละคร หรือบทภาพยนตร์ที่รัดกุม Under Paris อาจทำให้ผิดหวัง ความไม่สมเหตุสมผลตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะบทสรุปที่ท้าทายทุกกฎเกณฑ์ อาจกลายเป็นจุดที่ทำลายความสนุกสำหรับผู้ชมบางคนไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้น คำตอบของคำถามที่ว่า “มันส์หรือเพี้ยน” จึงขึ้นอยู่กับมุมมองและระดับการยอมรับในความหลุดโลกของผู้ชมแต่ละคนโดยแท้จริง

คะแนนรีวิว

6/10

เป็นหนังฉลามที่มอบความบันเทิงได้อย่างบ้าคลั่งและสนุกเกินคาด แม้จะเต็มไปด้วยช่องโหว่ทางตรรกะ แต่ความกล้าที่จะแตกต่างและฉากแอ็กชันสุดระทึกในช่วงท้ายก็ทำให้มันเป็นผลงานที่น่าจดจำในแบบของตัวเอง

คำแนะนำ (Recommendation)

เหมาะสำหรับ:

  • แฟนพันธุ์แท้หนังแนวสัตว์ประหลาด, หนังฉลาม, และหนังหายนะ
  • ผู้ชมที่ต้องการชมภาพยนตร์แอ็กชัน-สยองขวัญเพื่อความบันเทิง โดยไม่ยึดติดกับความสมจริง
  • ผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ที่มีการเสียดสีสังคมและการเมืองอย่างเจ็บแสบ

ไม่เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ชมที่ต้องการความสมเหตุสมผลและตรรกะทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง
  • ผู้ที่ไม่ชอบบทภาพยนตร์ที่มีช่องโหว่หรือการตัดสินใจของตัวละครที่น่าขัดใจ
  • ผู้ที่คาดหวังตอนจบที่สมบูรณ์และคลี่คลายทุกปมปัญหา

เมื่อธรรมชาติทวงคืนพื้นที่ของมันด้วยความรุนแรง มนุษย์จะยังคงยึดมั่นในอารยธรรมที่เปราะบางของตนเองได้อีกนานเพียงใด?

บทความรีวิวมาใหม่