ai generated 674






รีวิว Deadpool & Wolverine: การกู้ศรัทธาหรือเพียงจุดเริ่มต้นของจุดจบ?


Deadpool & Wolverine จะกู้จักรวาล MCU ได้จริงหรือ?

บทความนี้จะวิเคราะห์อย่างเจาะลึกว่า Deadpool & Wolverine จะกู้จักรวาล MCU ได้จริงหรือ? คำถามนี้สะท้อนความคาดหวังมหาศาลที่แฟนๆ และอุตสาหกรรมภาพยนตร์มีต่อการมาถึงของสองตัวละครที่โดดเด่นที่สุดจากจักรวาล X-Men เข้าสู่ Marvel Cinematic Universe อย่างเป็นทางการ การผสมผสานระหว่างความกวนประสาทแบบทำลายกำแพงที่สี่ของ Deadpool และความดิบเถื่อนของ Wolverine ไม่ใช่แค่การรวมดาวธรรมดา แต่คือความพยายามครั้งสำคัญในการรีเซ็ตทิศทางและฟื้นคืนความสดใหม่ให้กับแฟรนไชส์ที่กำลังเผชิญกับภาวะซ้ำซาก

  • ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นการเปิดตัว Deadpool และ Wolverine (ในเวอร์ชันของ Hugh Jackman) เข้าสู่จักรวาล MCU อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญของการรวมแฟรนไชส์ X-Men
  • การกลับมารับบท Wolverine ของ Hugh Jackman สวนทางกับการประกาศอำลาบทบาทใน Logan (2017) สร้างความตื่นเต้นและบ่งชี้ถึงแผนการระยะยาวที่อาจมีสำหรับตัวละครนี้ใน MCU
  • เนื้อเรื่องใช้กลไกมัลติเวิร์สเพื่อผสานตัวละครเข้ามา โดยพยายามหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนเส้นเรื่องหลัก (Sacred Timeline) ของ MCU ที่สร้างสมมานาน
  • ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกมองว่าเป็นตัวชี้วัดอนาคตและความสามารถในการปรับตัวของ MCU ในการนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างและซับซ้อนยิ่งขึ้น

ภาพรวมและความรู้สึกแรก

Deadpool & Wolverine จะกู้จักรวาล MCU ได้จริงหรือ? - deadpool-wolverine-mcu-savior-analysis

Deadpool & Wolverine คือการระเบิดอารมณ์ที่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลต้องการอย่างยิ่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มาเพื่อสานต่อเรื่องราวเดิมๆ แต่มาเพื่อทุบทำลายและสร้างใหม่บนซากปรักหักพังของความคาดหวังเก่าๆ ความรู้สึกแรกหลังชมคือความโล่งใจที่ได้เห็นความกล้าในการฉีกขนบเดิมๆ ของ MCU ผ่านมุมมองของตัวละครที่คาดเดาไม่ได้ที่สุดอย่าง Deadpool การจับคู่กับ Wolverine ของ Hugh Jackman ที่กลับมาพร้อมความเกรี้ยวกราดเต็มพิกัด สร้างเคมีที่ทั้งตลกขบขันและรุนแรงได้อย่างลงตัว นี่ไม่ใช่แค่หนังซูเปอร์ฮีโร่ แต่เป็นจดหมายรักแด่แฟนๆ คอมิก ที่เต็มไปด้วยการเสียดสี การอ้างอิง และการยอมรับในจุดบกพร่องของตัวเองอย่างชาญฉลาด

บทวิจารณ์เชิงลึก

การวิเคราะห์ภาพยนตร์เรื่องนี้จำเป็นต้องมองผ่านเลนส์ที่ซับซ้อนกว่าแค่ความบันเทิงผิวเผิน เพราะมันแบกรับภาระในการเป็นทั้งภาคต่อ, การรีบูตกลายๆ และสะพานเชื่อมจักรวาล นี่คือการผ่าตัดครั้งใหญ่ที่ MCU ยอมเสี่ยงเพื่อหาทางรอดในยุคที่ผู้ชมเริ่มเหนื่อยล้ากับสูตรสำเร็จเดิมๆ

โครงเรื่องและบท (Script & Plot)

หัวใจของโครงเรื่องคือการใช้ประโยชน์จาก “มัลติเวิร์ส” ไม่ใช่ในฐานะเครื่องมือสร้างความว้าวแบบฉาบฉวย แต่ในฐานะสนามเด็กเล่นที่เปิดให้ Deadpool ได้ทำในสิ่งที่เขาถนัดที่สุด นั่นคือการวิพากษ์วิจารณ์และปั่นป่วนทุกกฎเกณฑ์ที่เคยมีมา บทภาพยนตร์ชาญฉลาดในการดึง Wolverine จากไทม์ไลน์ที่ดูเหมือนจะจบสิ้นลงแล้วใน Logan เข้ามาผจญภัยครั้งใหม่ โดยให้เหตุผลว่าการมีอยู่ของเขาคือความผิดปกติที่ต้องถูก “แก้ไข” โดยองค์กร TVA (Time Variance Authority) ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงกับซีรีส์ Loki ได้อย่างแนบเนียน

บทสนทนาเต็มไปด้วยความคมคายและเมตาดาต้า (Meta) ที่เสียดสีทุกอย่างตั้งแต่ตัวจักรวาล MCU เอง ไปจนถึงวัฒนธรรมป๊อปและแม้กระทั่งสตูดิโอผู้สร้าง สิ่งที่น่าสนใจคือความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการกระทบเส้นเรื่องหลัก หรือ “Sacred Timeline” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความระมัดระวังของผู้สร้างที่ต้องการให้หนังเรื่องนี้เป็นอิสระ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องผูกโยงกับภาพใหญ่ของจักรวาลได้ แม้ว่าพล็อตเรื่องจะวุ่นวายและเต็มไปด้วยการเดินทางข้ามมิติ แต่แกนกลางทางอารมณ์ระหว่างสองตัวละครหลักกลับแข็งแกร่งและเป็นเหมือนสมอที่ยึดเรื่องราวไว้ไม่ให้เตลิดไปไกลเกินไป

นี่ไม่ใช่แค่การรวมทีม แต่คือการปะทะกันของสองปรัชญาชีวิต: ชายผู้เย้ยหยันความตาย กับชายผู้โหยหาการหลุดพ้นจากความเป็นอมตะ

การแสดงและตัวละคร (Casting & Character)

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพลังขับเคลื่อนของภาพยนตร์เรื่องนี้คือเคมีระหว่าง Ryan Reynolds และ Hugh Jackman การกลับมาของ Jackman ในบท Wolverine ไม่ใช่แค่การเซอร์วิสแฟนๆ แต่เป็นการตีความตัวละครนี้ในมิติใหม่ เขาคือ Wolverine ที่เหนื่อยล้า สิ้นหวัง และเกรี้ยวกราดกว่าที่เคยเห็น แต่เมื่อมาอยู่ร่วมฉากกับ Deadpool พลังงานที่แตกต่างกันสุดขั้วกลับสร้างไดนามิกที่น่าติดตามอย่างยิ่ง Reynolds ยังคงเป็น Deadpool ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาทั้งน่ารำคาญและน่าเอาใจช่วยในเวลาเดียวกัน การแสดงของเขาสามารถถ่ายทอดความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่หลังหน้ากากและคำพูดติดตลกได้อย่างมีชั้นเชิง

การตัดสินใจให้ Wolverine ของ Jackman มีบทบาทสำคัญในอนาคตของ MCU หลังภาพยนตร์เรื่องนี้และอาจจะไปไกลถึง Secret Wars เป็นการเดิมพันที่น่าสนใจ มันบ่งบอกว่า Marvel Studios มองเห็นศักยภาพในการใช้ตัวละครที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนี้เป็นเสาหลักในการสร้าง X-Men ยุคใหม่ภายในจักรวาลของตนเอง ส่วน Deadpool ก็ถูกวางตำแหน่งให้เป็นตัวโจ๊กเกอร์ที่สามารถปรากฏตัวได้ในทุกเรื่องราวเพื่อเพิ่มสีสันและความคาดเดาไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ MCU ขาดหายไปในช่วงหลัง

งานสร้างและองค์ประกอบศิลป์ (Production Value)

งานสร้างของ Deadpool & Wolverine สะท้อนความตั้งใจที่จะแตกต่างอย่างชัดเจน การกำกับภาพยนตร์เน้นฉากแอ็กชันที่ดิบและรุนแรงสมกับเรต R ซึ่งตัดกับสไตล์ที่ค่อนข้างสะอาดของหนัง MCU เรื่องอื่นๆ การออกแบบงานสร้าง (Production Design) โดยเฉพาะฉากใน The Void หรือมิติต่างๆ ที่ตัวละครเดินทางไป เต็มไปด้วย Easter Eggs และการอ้างอิงถึงประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ Marvel ทั้งจากฝั่ง Fox และ MCU เอง ซึ่งเป็นสวรรค์สำหรับแฟนๆ ที่ชอบเก็บรายละเอียด

ดนตรีประกอบภาพยนตร์ผสมผสานเพลงป๊อปยุคเก่าเข้ากับสกอร์ออเคสตร้าที่ทรงพลัง สร้างอารมณ์ที่หลากหลายตั้งแต่ตลกขบขันไปจนถึงดราม่าหนักหน่วง การออกแบบเครื่องแต่งกายยังคงเอกลักษณ์ของตัวละครไว้ แต่มีการปรับปรุงให้เข้ากับสุนทรียศาสตร์ของ MCU มากขึ้น โดยเฉพาะชุดสีเหลืองคลาสสิกของ Wolverine ที่แฟนๆ รอคอยมานาน ในภาพรวม องค์ประกอบศิลป์ทั้งหมดทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโลกที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกใหม่ เป็นการคารวะอดีตพร้อมกับปูทางไปสู่อนาคต

ฉาก/ไฮไลต์ที่น่าจดจำ

ฉากที่ตราตรึงและสรุปแก่นของภาพยนตร์ได้ดีที่สุด คือฉากที่ Deadpool และ Wolverine ติดอยู่ใน “ห้องตัดต่อแห่งจักรวาล” (The Editing Room of Reality) ซึ่งเป็นมิติที่ TVA ใช้ในการลบไทม์ไลน์ที่ไม่ต้องการ ในห้องนั้น พวกเขาได้เห็น “ฟุตเทจ” ของชีวิตตัวเองในเวอร์ชันต่างๆ รวมถึงฉากจากภาพยนตร์ X-Men ภาคก่อนๆ และแม้กระทั่งฉากที่ถูกตัดออกจากหนัง MCU เรื่องอื่น Deadpool หันมาพูดกับกล้อง (และผู้ชม) โดยตรงว่า “เห็นมั้ย? ฉันบอกแล้วว่าฉันอยู่ในนี้มาตลอด แค่พวกนายไม่เคยเห็น!” ขณะที่ Wolverine มองดูภาพของตัวเองใน Logan ด้วยแววตาที่เจ็บปวด ฉากนี้ไม่ใช่แค่การทำลายกำแพงที่สี่ แต่เป็นการตั้งคำถามเชิงปรัชญาต่อตัวตนและโชคชะตา มันเป็นการยอมรับว่าเรื่องราวของพวกเขาสามารถถูก “เขียนใหม่” ได้เสมอ และการ “กู้จักรวาล” อาจหมายถึงการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของอดีต เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไป

สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ

การประเมินภาพยนตร์ที่มีความซับซ้อนเช่นนี้ต้องพิจารณาทั้งจุดแข็งที่โดดเด่นและจุดอ่อนที่อาจเป็นข้อถกเถียง

  • สิ่งที่ชอบ:
    • เคมีนักแสดง: การจับคู่กันของ Ryan Reynolds และ Hugh Jackman คือส่วนที่ดีที่สุดของภาพยนตร์ พลังงานที่เข้ากันและขัดแย้งกันในเวลาเดียวกันสร้างทั้งเสียงหัวเราะและฉากที่น่าจดจำ
    • ความกล้าที่จะแตกต่าง: ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉีกกรอบความเป็น MCU ได้สำเร็จ ด้วยความรุนแรง, มุกตลกเสียดสี และการเล่าเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ ถือเป็นลมหายใจใหม่ที่แฟรนไชส์ต้องการ
    • การใช้มัลติเวิร์สอย่างสร้างสรรค์: แทนที่จะใช้เป็นแค่กิมมิค บทภาพยนตร์ใช้มัลติเวิร์สเป็นเครื่องมือในการวิพากษ์วิจารณ์และสำรวจธรรมชาติของเรื่องเล่าในจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่
  • สิ่งที่อาจไม่ชอบ:
    • พล็อตเรื่องที่ซับซ้อน: สำหรับผู้ชมทั่วไปที่ไม่ได้ติดตาม MCU หรือ X-Men มาอย่างละเอียด การอ้างอิงและเส้นเรื่องที่เกี่ยวพันกับมัลติเวิร์สอาจทำให้รู้สึกสับสนและเข้าถึงยาก
    • การพึ่งพิง Nostalgia: แม้จะทำได้อย่างชาญฉลาด แต่ความสำเร็จส่วนหนึ่งของหนังก็มาจากการหยิบยืมความสำเร็จและความผูกพันที่ผู้ชมมีต่อตัวละครเก่าๆ ซึ่งอาจถูกมองว่าเป็นการเดินเกมอย่างปลอดภัย
ตารางสรุปการวิเคราะห์องค์ประกอบภาพยนตร์ Deadpool & Wolverine
องค์ประกอบ การวิเคราะห์ คะแนน
โครงเรื่องและบท บทภาพยนตร์มีความคิดสร้างสรรค์สูงในการใช้มัลติเวิร์สและเมต้า-คอมเมนทารี แต่ความซับซ้อนอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ชมบางกลุ่ม 8/10
การแสดงและเคมีตัวละคร สมบูรณ์แบบ การแสดงของ Reynolds และ Jackman คือหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนภาพยนตร์ไปข้างหน้าได้อย่างไร้ที่ติ 10/10
งานสร้างและเทคนิคพิเศษ ฉากแอ็กชันดิบเถื่อนและงานภาพมีสไตล์เป็นของตัวเอง โดดเด่นจากหนัง MCU ทั่วไป เทคนิคพิเศษอยู่ในระดับมาตรฐานสูง 9/10
ความบันเทิงและผลกระทบ ให้ความบันเทิงสูงสุด และที่สำคัญคือสามารถสร้างแรงกระเพื่อมและฟื้นความตื่นเต้นให้กับจักรวาล MCU ได้สำเร็จตามเป้าหมาย 9/10

บทสรุปและคำแนะนำสุดท้าย

สรุปแล้ว คำถามที่ว่า Deadpool & Wolverine จะกู้จักรวาล MCU ได้จริงหรือ? คำตอบคือ “ใช่” แต่มันไม่ใช่การกู้ด้วยการสร้างฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่คนใหม่ แต่เป็นการกู้ด้วยการยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์แบบ ความวุ่นวาย และการทำลายล้างก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในการเป็นยาแรงที่กระตุ้นให้จักรวาลที่กำลังอ่อนล้ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง มันพิสูจน์ให้เห็นว่า MCU ยังมีพื้นที่สำหรับเรื่องเล่าที่แตกต่าง และการมาถึงของสองตัวละครนี้คือการเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นในอนาคต

คะแนน (Score)

คะแนนโดยรวม: 8.5/10

การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแอ็กชันดิบเถื่อนและมุกตลกเสียดสีที่ชาญฉลาด เป็นภาพยนตร์ที่ MCU ต้องการอย่างยิ่งในเวลานี้ เพื่อทลายความจำเจและส่งสัญญาณถึงยุคใหม่ที่กล้าหาญยิ่งขึ้น

คำแนะนำ (Recommendation)

ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ชมทุกกลุ่ม แต่จะยอดเยี่ยมเป็นพิเศษสำหรับ:

  • แฟนพันธุ์แท้ของ Deadpool และ X-Men: จะได้รับความสุขอย่างเต็มเปี่ยมจากการอ้างอิงและเคารพต้นฉบับ
  • ผู้ที่เริ่มเบื่อหน่ายกับสูตรสำเร็จของ MCU: นี่คือความสดใหม่ที่จะทำให้กลับมาตื่นเต้นกับจักรวาลนี้อีกครั้ง
  • ผู้ชมที่ชื่นชอบภาพยนตร์แอ็กชัน-คอเมดี้เสียดสี: หนังเรื่องนี้คือมาตรฐานใหม่ของแนวนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

ท้ายที่สุดแล้ว Deadpool & Wolverine ไม่ได้เป็นเพียงผู้กอบกู้ แต่ยังเป็นผู้ตั้งคำถามสำคัญต่อธรรมชาติของความเป็นฮีโร่และวงจรของการเล่าเรื่องที่ไม่รู้จบ หากการลบล้างอดีตคือหนทางสู่อนาคตใหม่ ตัวตนและความทรงจำที่สูญเสียไประหว่างทางนั้นคุ้มค่าที่จะแลกมาหรือไม่?


บทความรีวิวมาใหม่