รีวิว Deadpool & Wolverine หนังที่จะกู้ศรัทธาจักรวาล Marvel?


Deadpool & Wolverine หนังที่จะกู้ศรัทธาจักรวาล Marvel?

ท่ามกลางกระแสความเหนื่อยล้าและวิกฤตศรัทธาที่แฟนๆ มีต่อจักรวาลภาพยนตร์ Marvel การมาถึงของภาพยนตร์เรื่องที่ 34 อย่าง Deadpool & Wolverine จึงเปรียบเสมือนการเดิมพันครั้งสำคัญที่แบกรับความคาดหวังมหาศาลไว้บนบ่า บทความนี้จะวิเคราะห์อย่างเจาะลึกถึงองค์ประกอบต่างๆ ของภาพยนตร์ เพื่อสำรวจว่ามันเป็นเพียงภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่มอบความบันเทิง หรือเป็น “ผู้กอบกู้” ที่จะมาฟื้นคืนชีพจักรวาลที่กำลังสั่นคลอนนี้ได้จริง

ประเด็นสำคัญที่ซ่อนอยู่

Deadpool & Wolverine หนังที่จะกู้ศรัทธาจักรวาล Marvel? - deadpool-wolverine-mcu-savior

  • การทลายกำแพงที่สี่สู่การวิจารณ์ตัวเอง: ภาพยนตร์ใช้เอกลักษณ์ของเดดพูลในการพูดคุยกับผู้ชม เพื่อวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในจักรวาล Marvel ทั้งในแง่ของโครงเรื่องที่ซับซ้อนเกินไปและความเหนื่อยล้าของผู้ชม
  • เคมีต่างขั้วที่เป็นหัวใจหลัก: ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง เวด วิลสัน ผู้ไม่เคยหยุดพูด กับ โลแกน ผู้เหนื่อยหน่ายต่อโลก คือแกนกลางทางอารมณ์ที่ขับเคลื่อนเรื่องราวและสำรวจสภาวะจิตใจของ “ฮีโร่” ที่แตกต่างกัน
  • จดหมายรักและบทอำลา: ภาพยนตร์ทำหน้าที่เป็นบทสรุปให้กับจักรวาล X-Men ของ Fox พร้อมทั้งคารวะมรดกของ Marvel ผ่านการใช้ตัวละครรับเชิญอย่างมีความหมาย ไม่ใช่แค่การปรากฏตัวฉาบฉวย
  • การยอมรับอดีตเพื่อก้าวต่อไป: การดึงวูล์ฟเวอรีนจากจักรวาลอื่นมาเผชิญหน้ากับความล้มเหลว เป็นสัญลักษณ์ของการที่ MCU ต้องยอมรับความผิดพลาดในอดีตของตนเองเพื่อที่จะสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งขึ้น

Deadpool & Wolverine หนังที่จะกู้ศรัทธาจักรวาล Marvel? คำถามนี้ล่องลอยอยู่ในอากาศนับตั้งแต่วันแรกที่โปรเจกต์นี้ได้รับการประกาศ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงภาคต่อของแอนตี้ฮีโร่ปากจัดที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนที่อาจชี้ชะตาอนาคตของจักรวาลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เวด วิลสัน ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แต่แล้วองค์กรควบคุมกาลเวลา (Time Variance Authority) ก็ได้มาเยือนเพื่อมอบภารกิจในการปกป้องมัลติเวิร์ส ซึ่งนำไปสู่การร่วมมืออย่างไม่เต็มใจกับวูล์ฟเวอรีนจากอีกจักรวาลหนึ่ง เพื่อกอบกู้โลกของพวกเขาจากการล่มสลาย

การมาถึงของภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Marvel Cinematic Universe (MCU) กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งในแง่ของเสียงวิจารณ์และรายได้ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ความสดใหม่ที่เคยเป็นจุดแข็งได้เริ่มจางหายไปตามกาลเวลา และผู้ชมเริ่มรู้สึกอิ่มตัวกับเนื้อหาที่ผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง Deadpool & Wolverine จึงไม่ได้เป็นแค่ภาพยนตร์เรื่องใหม่ แต่เป็นความหวัง เป็นยาแรงที่ถูกส่งมาเพื่อกระตุ้นจักรวาลที่กำลังอ่อนแรงให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ภาพรวมและความรู้สึกแรก

Deadpool & Wolverine มอบประสบการณ์ที่ทั้งคุ้นเคยและสดใหม่ในเวลาเดียวกัน มันคือการเดินทางที่บ้าคลั่ง โกลาหล เต็มไปด้วยมุกตลกเสียดสีและการทำลายกำแพงที่สี่ที่เฉียบคมยิ่งกว่าเดิม แต่ภายใต้ความตลกโปกฮาและฉากแอ็กชันสุดเดือด กลับซ่อนไว้ซึ่งแก่นแท้ทางอารมณ์ที่น่าประหลาดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวละครของวูล์ฟเวอรีนที่เต็มไปด้วยบาดแผลและความเหนื่อยล้า ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการชำระล้างบาปของจักรวาล Marvel ที่กล้าจะยอมรับและล้อเลียนความผิดพลาดของตัวเองอย่างเปิดเผย แทนที่จะทำเป็นมองไม่เห็น

บทวิจารณ์เชิงลึก

การจะเข้าใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างไร เราจำเป็นต้องมองลึกลงไปในแต่ละองค์ประกอบที่ประกอบสร้างมันขึ้นมา ตั้งแต่โครงเรื่องที่ท้าทายขนบเดิมๆ ไปจนถึงการแสดงที่ทรงพลัง และงานสร้างที่สะท้อนถึงเจตนาของผู้กำกับ

โครงเรื่องและบท (Script & Plot)

บทภาพยนตร์ที่เขียนโดยทีมงานซึ่งรวมถึง ชอว์น เลวี และ ไรอัน เรย์โนลด์ส เอง คือจุดแข็งที่สุดของเรื่อง มันไม่ได้แค่เล่าเรื่องการผจญภัยข้ามมิติ แต่ยังทำหน้าที่เป็น “อภิปาฐกถา” (meta-commentary) ต่อสถานะของหนังซูเปอร์ฮีโร่ในปัจจุบัน พล็อตเรื่องที่ให้เดดพูลถูก TVA ดึงตัวไปทำภารกิจ เป็นกลไกอันชาญฉลาดที่ทำให้เขาสามารถเดินทางไปยังจักรวาลต่างๆ และวิพากษ์วิจารณ์ทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ตัวละครที่ถูกลืมไปจนถึงความผิดพลาดในหนังเรื่องก่อนๆ ของ MCU

ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียง “จดหมายรักถึง Marvel” แต่มันคือจดหมายรักที่เปื้อนเลือดและเต็มไปด้วยคำสบถ มันคือการแสดงความเคารพผ่านการล้อเลียนอย่างเจ็บแสบ ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่ตัวละครอย่างเดดพูลจะทำได้

โครงเรื่องยังทำหน้าที่เป็น “การส่งท้ายจักรวาล Fox” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ การนำวูล์ฟเวอรีนในเวอร์ชันของ ฮิวจ์ แจ็คแมน กลับมา ไม่ใช่แค่เพื่อเอาใจแฟนๆ แต่เพื่อปิดฉากตำนานของเขาอย่างสมเกียรติ พร้อมๆ กับการสำรวจบาดแผลทางจิตใจที่ภาพยนตร์ Logan (2017) ทิ้งไว้ บทสนทนามีความคมคายและเต็มไปด้วยมุกตลกที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดพื้นที่ให้ช่วงเวลาที่เงียบงันและเปราะบางได้ทำงาน ซึ่งสร้างสมดุลได้อย่างน่าทึ่ง

การแสดงและตัวละคร (Casting & Character)

ไรอัน เรย์โนลด์ส คือเดดพูล และเดดพูลคือไรอัน เรย์โนลด์ส การกลับมาครั้งนี้เขายังคงเป็นจิตวิญญาณของตัวละครได้อย่างไร้ที่ติ แต่สิ่งที่ยกระดับภาพยนตร์เรื่องนี้คือการกลับมาของ ฮิวจ์ แจ็คแมน ในบทวูล์ฟเวอรีน แจ็คแมนเคยประกาศอำลาบทบาทนี้ไปแล้ว แต่การตัดสินใจกลับมาเพราะ “ความรู้สึกจากข้างใน” ของเขาได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เขาไม่ได้กลับมาในฐานะโลแกนคนเดิม แต่เป็นเวอร์ชันที่แตกสลายและสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม ซึ่งเปิดมิติใหม่ให้ตัวละครที่ผู้ชมรัก

เคมีระหว่างนักแสดงทั้งสองคือหัวใจของเรื่องอย่างแท้จริง พลังงานที่ล้นเหลือและไม่เคยหยุดนิ่งของเดดพูล ปะทะเข้ากับความเหนื่อยหน่ายและเย็นชาของวูล์ฟเวอรีน สร้างเป็นไดนามิกที่ทั้งตลกขบขันและน่าเศร้าในเวลาเดียวกัน มันคือภาพสะท้อนของมนุษย์สองขั้ว คนหนึ่งใช้ความตลกเป็นเกราะป้องกันความเจ็บปวด ส่วนอีกคนจมอยู่กับความเจ็บปวดจนไม่เหลืออะไรให้ป้องกันอีกต่อไป นักแสดงสมทบคนอื่นๆ เช่น มอเรนา บัคคาริน, เอ็มมา คอร์ริน และแมทธิว แม็กฟาเดียน ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม เป็นส่วนประกอบที่ลงตัวในโลกอันวุ่นวายนี้

งานสร้างและองค์ประกอบศิลป์ (Production Value)

ภายใต้การกำกับของ ชอว์น เลวี ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสมดุลระหว่างฉากแอ็กชันสเกลใหญ่กับช่วงเวลาที่เน้นการพัฒนาตัวละคร งานภาพมีการผสมผสานสไตล์ระหว่างความดิบเถื่อนแบบภาพยนตร์ X-Men ยุคเก่า กับความสวยงามทันสมัยของ MCU ยุคใหม่ สร้างเอกลักษณ์ทางภาพที่ไม่เหมือนใคร การออกแบบฉาก โดยเฉพาะฉากในมิติต่างๆ ของ TVA และ The Void แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ต้องการสำรวจแง่มุมที่แปลกประหลาดและพังทลายของมัลติเวิร์ส ดนตรีประกอบและเพลงที่เลือกใช้ยังคงรักษามาตรฐานความกวนที่เป็นเสน่ห์ของแฟรนไชส์นี้ไว้ได้อย่างครบถ้วน

ฉาก/ไฮไลต์ที่น่าจดจำ (Memorable Moments)

มีฉากหนึ่งที่ตราตรึงเป็นพิเศษ คือฉากที่เดดพูลและวูล์ฟเวอรีนถูกส่งไปยัง “The Void” ดินแดนที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูก TVA ลบทิ้งจะมาอยู่รวมกัน ที่นั่นพวกเขาเดินผ่านซากปรักหักพังของไทม์ไลน์ที่ล้มเหลว เดดพูลชี้ไปยังซากเฮลิแคริเออร์ลำหนึ่งแล้วพูดว่า “นั่นไง ไทม์ไลน์ที่ทุกคนชอบหนัง X-Men Origins: Wolverine” ก่อนที่วูล์ฟเวอรีนจะหันมามองด้วยสายตาที่ว่างเปล่าและตอบกลับเรียบๆ ว่า “ในทุกไทม์ไลน์ ฉันก็เจ็บปวดเหมือนกันหมด” ฉากนี้สรุปแก่นของภาพยนตร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันเป็นมุกตลกที่เสียดแทงอดีตของตัวละครและของสตูดิโอ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่เปิดเผยความเปราะบางและความทุกข์ทรมานที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจของโลแกน เป็นการผสมผสานระหว่างความฮาและความเศร้าที่ลงตัวอย่างที่สุด

ตารางสรุปการวิเคราะห์องค์ประกอบภาพยนตร์ Deadpool & Wolverine
องค์ประกอบ การวิเคราะห์ คะแนน (เต็ม 10)
โครงเรื่องและบท บทภาพยนตร์มีความเฉียบคมและกล้าหาญในการวิจารณ์ตัวเอง ผสมผสานความตลกขบขันเข้ากับประเด็นที่ลึกซึ้งได้อย่างลงตัว 9
การแสดงและเคมีตัวละคร การแสดงของ เรย์โนลด์ส และ แจ็คแมน คือระดับมาสเตอร์คลาส เคมีระหว่างทั้งสองคือจิตวิญญาณที่แบกรับภาพยนตร์ทั้งเรื่องไว้ 10
งานสร้างและเทคนิคพิเศษ งานภาพและฉากแอ็กชันทำได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ มีการออกแบบโลกที่สร้างสรรค์และสะท้อนธีมของเรื่องราวได้ดี 8
ความบันเทิงและการส่งผลกระทบ มอบความบันเทิงขั้นสุดยอด ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นบทวิเคราะห์และจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับจักรวาล Marvel ได้สำเร็จ 9

สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ

  • สิ่งที่ชอบ: ความกล้าหาญในการล้อเลียนและยอมรับความผิดพลาดของ MCU, เคมีที่สมบูรณ์แบบระหว่างนักแสดงนำ, การใช้ตัวละครรับเชิญอย่างชาญฉลาดและมีความหมายต่อเนื้อเรื่อง, และการสร้างสมดุลระหว่างความตลกสุดขั้วกับดราม่าที่หนักอึ้ง
  • สิ่งที่อาจไม่ชอบ: สำหรับผู้ชมที่ไม่ได้ติดตามจักรวาล Marvel หรือ X-Men มาอย่างยาวนาน อาจไม่เข้าใจมุกตลกหรือการอ้างอิงบางอย่าง, โครงเรื่องเกี่ยวกับมัลติเวิร์สอาจมีความซับซ้อนสำหรับผู้ชมทั่วไป

บทสรุปและคะแนน

สรุปแล้ว Deadpool & Wolverine ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ที่เข้ามาเพื่อสร้างความบันเทิง แต่มันคือการ “ผ่าตัดใหญ่” จักรวาล Marvel ที่จำเป็นอย่างยิ่ง มันใช้ความโกลาหลและความเคารพกฎเกณฑ์เป็นศูนย์ของตัวละครเดดพูลเป็นมีดผ่าตัด เพื่อกรีดเปิดบาดแผลที่แฟนๆ รู้สึก และเยียวยามันด้วยเสียงหัวเราะและหัวใจที่จริงใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้กอบกู้ศรัทธา ไม่ใช่ด้วยการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อนกว่าเดิม แต่ด้วยการกลับไปสู่พื้นฐาน คือการสร้างตัวละครที่น่าจดจำและเรื่องราวที่เปี่ยมด้วยความรู้สึก มันคือเครื่องเตือนใจว่า แม้ในจักรวาลที่เต็มไปด้วยฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ บางครั้งสิ่งที่ทรงพลังที่สุดก็คือการยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง

คะแนน (Score)

คะแนนรีวิว

8/10

ภาพยนตร์ที่เปรียบเสมือนลมหายใจเฮือกใหม่ของจักรวาล Marvel เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความฮากับความลึกซึ้งทางอารมณ์ และเป็นบทพิสูจน์ว่าการทำลายล้างเพื่อสร้างสรรค์คือสิ่งที่จำเป็น

คำแนะนำ (Recommendation)

ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ชมทุกกลุ่ม แต่จะทรงพลังที่สุดสำหรับแฟนๆ ที่ติดตามจักรวาล Marvel และ X-Men มาอย่างยาวนาน ผู้ที่รู้สึกเหนื่อยล้ากับสูตรสำเร็จเดิมๆ จะได้พบกับความสดใหม่ที่รอคอยมานาน และสำหรับแฟนเดนตายของเดดพูลและวูล์ฟเวอรีน นี่คือภาพยนตร์ที่คุณต้องดู เพราะมันคือการให้เกียรติและบทสรุปที่ตัวละครเหล่านี้สมควรได้รับ

หากการทำลายล้างคือหนทางเดียวสู่การสร้างสรรค์ใหม่ ตัวตนที่แท้จริงของเราคือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น หรือคือซากปรักหักพังที่เหลืออยู่?


บทความรีวิวมาใหม่