Deadpool & Wolverine: หนังที่จะกอบกู้จักรวาล MCU?
ท่ามกลางภาวะซบเซาและความเหนื่อยล้าของผู้ชมที่มีต่อจักรวาลภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ คำถามที่ว่า Deadpool & Wolverine: หนังที่จะกอบกู้จักรวาล MCU? ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาสำคัญ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงภาคต่อของแอนตี้ฮีโร่ปากจัด แต่ยังเป็นจุดเชื่อมต่อครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างแฟรนไชส์ X-Men เดิมของ Fox และจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ที่กำลังขยายตัวสู่พหุจักรวาลอย่างเต็มรูปแบบ การกลับมาของสองตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในโลกคอมิก พร้อมกับการเดิมพันที่สูงลิบถึงการล่มสลายของจักรวาล ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกจับตามองในฐานะความหวังครั้งใหม่ ที่อาจชี้ชะตาทิศทางของ MCU ในอนาคต
ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามอง:
- การหลอมรวมจักรวาล: ภาพยนตร์เรื่องนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการนำแฟรนไชส์ X-Men เข้าสู่ MCU อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของพหุจักรวาล และเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของเรื่องราวในอนาคต
- การกลับมาของตำนาน: การคืนบทบาทวูล์ฟเวอรีนของ ฮิวจ์ แจ็คแมน หลังจากที่เคยประกาศอำลาไปในเรื่อง Logan (2017) ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ดึงดูดความสนใจจากแฟนๆ ทั่วโลก และเป็นหัวใจหลักของภาพยนตร์
- แนวคิดใหม่ในพหุจักรวาล: บทภาพยนตร์ได้แนะนำกฎเกณฑ์ใหม่ๆ เช่น “Anchor Beings” หรือ “ตัวตนยึดเหนี่ยว” ซึ่งเป็นฮีโร่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการดำรงอยู่ของจักรวาลทั้งหมด ซึ่งเพิ่มมิติและความซับซ้อนให้กับเรื่องราว
- ความคาดหวังด้านรายได้: Deadpool & Wolverine ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายในบ็อกซ์ออฟฟิศ โดยอาจทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญญาณบวกที่จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นใน MCU
ภาพรวมและความรู้สึกแรก

Deadpool & Wolverine คือการผสมผสานระหว่างความตลกเสียดสีอย่างบ้าคลั่งเข้ากับฉากแอ็กชันดิบเถื่อนและแก่นเรื่องที่หนักแน่นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของเดดพูลที่ถูกองค์กรควบคุมกาลเวลา (Time Variance Authority หรือ TVA) ดึงตัวมาเพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญ แต่แทนที่จะเข้าร่วม MCU อย่างที่ควรจะเป็น เขากลับเลือกที่จะออกตามหาวูล์ฟเวอรีนในอีกจักรวาลหนึ่งเพื่อมาช่วยกอบกู้โลกของตัวเอง ความรู้สึกแรกหลังชมคือความโกลาหลที่ถูกควบคุมอย่างมีชั้นเชิง เป็นภาพยนตร์ที่ตระหนักรู้ในตัวเองสูง กล้าที่จะล้อเลียนขนบธรรมเนียมของหนังซูเปอร์ฮีโร่ แต่ในขณะเดียวกันก็เคารพในตำนานของตัวละครที่นำมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้พื้นที่กับความเจ็บปวดและเหนื่อยล้าของวูล์ฟเวอรีน
บทวิจารณ์เชิงลึก
การวิเคราะห์ Deadpool & Wolverine จำเป็นต้องมองลึกลงไปกว่าฉากหน้าของความรุนแรงและมุกตลกเสียดสี เพราะแก่นแท้ของมันคือการสำรวจสภาวะจิตใจของตัวละครที่แตกสลาย และการตั้งคำถามต่อแนวคิดเรื่อง “โชคชะตา” และ “ความสำคัญของตัวตน” ในโลกที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้อันไร้ที่สิ้นสุดของพหุจักรวาล
| องค์ประกอบ | การวิเคราะห์ | ผลกระทบต่อภาพยนตร์ |
|---|---|---|
| โครงเรื่องและบท | ผสมผสานแนวคิดพหุจักรวาลเข้ากับภารกิจส่วนตัวของตัวละคร โดยมีแนวคิด “Anchor Being” เป็นศูนย์กลาง | สร้างเดิมพันที่สูงและมีความหมาย แต่บางจุดอาจมีช่องโหว่ทางตรรกะสำหรับผู้ชมที่ต้องการความสมเหตุสมผล |
| การแสดงและเคมี | เคมีที่เข้ากันอย่างลงตัวระหว่างไรอัน เรย์โนลด์ส และฮิวจ์ แจ็คแมน คือหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนเรื่องราว | ยกระดับภาพยนตร์จากแอ็กชันคอเมดี้ทั่วไปให้มีมิติทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น |
| งานสร้างและโทนเรื่อง | การเป็นภาพยนตร์เรต R เรื่องแรกใน MCU ช่วยให้สามารถนำเสนอฉากแอ็กชันที่รุนแรงและมุกตลกที่ทะลึ่งได้อย่างเต็มที่ | สร้างความสดใหม่และแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นในจักรวาลเดียวกันอย่างชัดเจน |
| ความสำคัญต่อ MCU | ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างจักรวาล X-Men และ MCU อย่างเป็นทางการ และอาจเป็นรากฐานสำหรับอีเวนต์ใหญ่ในอนาคต | ถูกคาดหวังให้เป็นผู้ “กอบกู้” ศรัทธาของแฟนๆ และฟื้นฟูทิศทางของจักรวาลมาร์เวล |
โครงเรื่องและบท: ตัวตนและพหุจักรวาล
หัวใจของโครงเรื่องคือการนำเสนอแนวคิด “Anchor Beings” หรือ “ตัวตนยึดเหนี่ยว” ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่การตายของพวกเขาสามารถลบจักรวาลทั้งใบให้หายไปได้ วูล์ฟเวอรีนในเรื่องนี้ถูกกำหนดให้เป็น “สมอ” หลักของจักรวาล X-Men เดิม ภารกิจของเดดพูลจึงไม่ใช่แค่การต่อสู้กับวายร้าย แต่คือการปกป้อง (หรือหาตัวตายตัวแทน) บุคคลที่เปรียบเสมือนเสาหลักค้ำจุนความเป็นจริงทั้งหมดไว้ บทภาพยนตร์ได้ใช้กลไกนี้เพื่อสำรวจประเด็นทางปรัชญาเกี่ยวกับคุณค่าของชีวิตหนึ่งชีวิตเทียบกับความเป็นอยู่ของคนนับล้าน แม้ว่านักวิจารณ์บางส่วนจะชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ของพล็อตและการพัฒนาตัวละครที่อาจจะยังไม่ลึกซึ้งพอ แต่ความทะเยอทะยานของบทในการสร้างเดิมพันที่สูงระดับพหุจักรวาลนั้นถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ
การมีอยู่ของคนๆ หนึ่งสามารถแบกรับชะตากรรมของทั้งจักรวาลได้จริงหรือ? นี่คือคำถามเชิงอัตถิภาวนิยมที่ซ่อนอยู่ภายใต้มุกตลกและการต่อสู้
การแสดงและตัวละคร: คู่ตรงข้ามที่สมบูรณ์
ปฏิเสธไม่ได้ว่าพลังขับเคลื่อนหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้คือเคมีระหว่าง ไรอัน เรย์โนลด์ส ในบทเดดพูล และการกลับมาสวมบทบาทวูล์ฟเวอรีนของ ฮิวจ์ แจ็คแมน การตัดสินใจของแจ็คแมนที่จะกลับมารับบทนี้อีกครั้งหลังจากอำลาไปอย่างสมบูรณ์ใน Logan ได้สร้างความตื่นเต้นอย่างมหาศาล และการแสดงของเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขานำเสนอมิติของวูล์ฟเวอรีนที่เหนื่อยล้า สิ้นหวัง และไม่เต็มใจที่จะกลับไปสู่วังวนของความรุนแรง ซึ่งตัดกันอย่างสิ้นเชิงกับพลังงานที่ล้นเหลือและความปากจัดของเดดพูล การปะทะกันของสองขั้วตรงข้ามนี้ได้สร้างทั้งเสียงหัวเราะและช่วงเวลาที่น่าประทับใจ การแสดงของทั้งคู่ทำให้ตัวละครมีชีวิตและทำให้ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของพวกเขาน่าเชื่อถือ
งานสร้างและองค์ประกอบศิลป์: ความโกลาหลอย่างมีศิลปะ
ภายใต้การกำกับของ ชอว์น เลวี ผู้ซึ่งเคยร่วมงานกับไรอัน เรย์โนลด์ส มาแล้วหลายครั้ง Deadpool & Wolverine ได้สร้างสมดุลระหว่างสุนทรียศาสตร์ที่แตกต่างกันของจักรวาล X-Men และ MCU ได้อย่างลงตัว การที่ภาพยนตร์ได้รับการจัดให้อยู่ในเรต R ทำให้ผู้สร้างมีอิสระในการออกแบบฉากแอ็กชันที่ดุเดือดและสมจริงมากขึ้น รวมถึงการใช้มุกตลกสำหรับผู้ใหญ่ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลกับข้อจำกัดเดิมๆ ของ MCU การออกแบบงานสร้าง โดยเฉพาะฉากในสำนักงาน TVA และโลกที่กำลังล่มสลาย สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของสเกลเรื่องราวได้เป็นอย่างดี การผสมผสานความสดใหม่ของสไตล์เดดพูลเข้ากับโครงสร้างของ MCU ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่อาจช่วยฉีดพลังงานใหม่ๆ ให้กับจักรวาลนี้
ฉากเด่นที่น่าจดจำ: จุดตัดของโศกนาฏกรรมและสุขนาฏกรรม
ฉากหนึ่งที่ตราตรึงคือการเผชิญหน้ากันครั้งแรกระหว่างเดดพูลและวูล์ฟเวอรีนในบาร์เสื่อมโทรม ไม่ใช่ในฐานะฮีโร่ แต่ในฐานะชายสองคนที่ชีวิตพังทลาย เดดพูลพยายามชักชวนวูล์ฟเวอรีนด้วยมุกตลกและการยั่วโมโหตามสไตล์ แต่สิ่งที่สะท้อนกลับมาคือแววตาที่ว่างเปล่าและความเหนื่อยหน่ายของโลแกน ฉากนี้ไม่ได้มีแอ็กชันใหญ่โต แต่เป็นการปะทะกันทางอารมณ์ที่รุนแรง มันสรุปแก่นของความสัมพันธ์ของทั้งสองได้อย่างสมบูรณ์แบบ คือการที่สุขนาฏกรรมพยายามจะฉุดรั้งโศกนาฏกรรมขึ้นมาจากความมืดมิด และเป็นเครื่องยืนยันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีมากกว่าแค่ความตลกผิวเผิน
สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ
- สิ่งที่ชอบ:
- เคมีนักแสดงนำ: ปฏิสัมพันธ์ระหว่างไรอัน เรย์โนลด์ส และฮิวจ์ แจ็คแมน คือจุดแข็งที่สุดของภาพยนตร์ สร้างไดนามิกที่ทั้งตลกขบขันและเปี่ยมด้วยอารมณ์
- การทลายกำแพงอย่างสร้างสรรค์: การใช้มุกตลกเสียดสีและตระหนักรู้ในตัวเอง (Meta-Humor) ถูกนำมาใช้อย่างชาญฉลาดเพื่อวิจารณ์และเชื่อมโยงจักรวาลภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหมด
- การเดิมพันที่สูงอย่างแท้จริง: การนำเสนอแนวคิดที่ว่าการกระทำของตัวละครส่งผลต่อการล่มสลายของทั้งจักรวาล ทำให้เรื่องราวมีน้ำหนักและความสำคัญมากกว่าที่เคย
- สิ่งที่อาจไม่ชอบ:
- ความซับซ้อนของพล็อต: กฎเกณฑ์ของพหุจักรวาลและ TVA อาจทำให้ผู้ชมหน้าใหม่รู้สึกสับสน และอาจมีช่องโหว่ทางตรรกะอยู่บ้าง
- การพัฒนาตัวละครสมทบ: ด้วยการมุ่งเน้นไปที่สองตัวละครหลัก ทำให้ตัวละครสมทบอื่นๆ อาจไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร
บทสรุปและคะแนน: ภาระของผู้กอบกู้
ท้ายที่สุดแล้ว Deadpool & Wolverine เป็นมากกว่าภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี้ธรรมดา มันคือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในแผนการระยะยาวของ MCU ที่ต้องการขยายพหุจักรวาลให้กว้างไกลยิ่งขึ้น การนำสองตัวละครที่เป็นที่รักของแฟนๆ กลับมาในบริบทใหม่ พร้อมกับความกล้าที่จะแตกต่างทั้งในด้านโทนเรื่องและความรุนแรง ถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของ Marvel Studios ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ได้สมบูรณ์แบบในทุกด้าน แต่ความสดใหม่ พลังงาน และความทะเยอทะยานของมันก็เพียงพอที่จะจุดประกายความหวังและปลุกความตื่นเต้นให้กับจักรวาลที่หลายคนเริ่มรู้สึกว่ากำลังจะหมดไฟ ไม่ว่ามันจะ “กอบกู้” MCU ได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม แต่มันก็ได้พิสูจน์แล้วว่าการทำลายขนบเดิมๆ คือหนทางที่ดีที่สุดในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
คะแนน
ภาพยนตร์ที่เปี่ยมด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความฮาแบบทะลุกำแพงที่สี่และดราม่าตัวละครที่หนักแน่น แม้จะมีข้อบกพร่องเล็กน้อยในบท แต่เคมีของนักแสดงนำและฉากแอ็กชันที่น่าจดจำก็ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดของ MCU ในยุคหลัง
คำแนะนำ
ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ชมที่ติดตามจักรวาลมาร์เวลมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะผู้ที่เติบโตมากับแฟรนไชส์ X-Men ของ Fox รวมถึงแฟนๆ ของเดดพูลที่ชื่นชอบอารมณ์ขันแบบเสียดสีและไม่เคารพกฎเกณฑ์ นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับสูตรสำเร็จเดิมๆ ของหนังซูเปอร์ฮีโร่และมองหาความแปลกใหม่ที่ดิบเถื่อนและคาดเดายากกว่าเดิม
หากการดำรงอยู่ของจักรวาลหนึ่งขึ้นอยู่กับบุคคลเพียงคนเดียว…คุณค่าของชีวิตนับล้านจะถูกวัดเทียบกับชีวิตเดียวนั้นได้อย่างไร?
