“`html

Deadpool & Wolverine กุญแจสำคัญกู้วิกฤตจักรวาล Marvel?

ท่ามกลางภาวะซบเซาและเสียงวิจารณ์ที่ถาโถมเข้าใส่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ในช่วงหลัง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญที่หลายคนจับตามอง การมาถึงของ Deadpool & Wolverine กุญแจสำคัญกู้วิกฤตจักรวาล Marvel? ไม่ใช่แค่การกลับมาของตัวละครอันเป็นที่รัก แต่ยังเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ที่อาจชี้ชะตาอนาคตของแฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงการรวมตัวของสองขั้วที่แตกต่าง แต่ยังเป็นการผสานโลกของ X-Men เข้ากับ MCU อย่างเป็นทางการครั้งแรก ซึ่งอาจเป็นทั้งคำตอบและจุดเปลี่ยนที่แฟนๆ รอคอย

• ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ท่ามกลางกระแสความนิยมที่ลดลง
• การผสมผสานระหว่างจักรวาล X-Men ของ Fox และ MCU อย่างเป็นทางการครั้งแรก นำเสนอการครอสโอเวอร์และคาเมโอที่แฟนๆ รอคอย
• เนื้อเรื่องหลักเกี่ยวข้องกับการพิทักษ์ไทม์ไลน์และการไถ่บาปของตัวละคร ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของ MCU ในการกอบกู้ศรัทธาจากผู้ชม
• ความสำเร็จทั้งในด้านรายได้และเสียงวิจารณ์ ช่วยสร้างแรงผลักดันเชิงบวกให้กับโปรเจกต์ในอนาคตของ Marvel โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปูทางไปสู่ Secret Wars

ภาพรวมและความรู้สึกแรก

ในช่วงเวลาที่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า “ภาวะหมดไฟจากหนังซูเปอร์ฮีโร่” (superhero fatigue) ซึ่งสะท้อนผ่านรายได้และเสียงตอบรับที่แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด การมาถึงของ Deadpool & Wolverine จึงเปรียบเสมือนแสงสว่างแห่งความหวัง ภาพยนตร์เรื่องนี้แบกรับความคาดหวังมหาศาลในการเป็นผู้กอบกู้วิกฤต ไม่ใช่เพียงเพราะการกลับมาของ ไรอัน เรย์โนลด์ส ในบท เดดพูล และ ฮิวจ์ แจ็คแมน ในบท วูล์ฟเวอรีน ที่ทุกคนรอคอย แต่ยังเป็นเพราะกลยุทธ์ในการนำเสนอที่แตกต่างออกไป ด้วยการใช้ประโยชน์จากพล็อตเรื่องพหุจักรวาล (multiverse) อย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างความตื่นเต้นโดยไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกสับสนหรือเหนื่อยหน่ายเหมือนที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า MCU ยังคงมีศักยภาพที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่และดึงดูดผู้ชมให้กลับมาได้อีกครั้ง หากมีการวางทิศทางที่ชัดเจนและเข้าใจความต้องการของแฟนๆ อย่างแท้จริง

บทวิจารณ์เชิงลึก

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นมากกว่าหนังแอ็คชั่นตลกเรท R ทั่วไป แต่คือการวิเคราะห์และวิจารณ์ตัวตนของแฟรนไชส์ MCU ผ่านมุมมองที่เสียดสีและตระหนักรู้ในตัวเอง (self-aware) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเดดพูล มันคือจดหมายรักที่ส่งถึงแฟนๆ พร้อมกับการยอมรับอย่างกล้าหาญถึงจุดอ่อนของตัวเองในช่วงที่ผ่านมา

โครงเรื่องและบท (Script & Plot)

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เวด วิลสัน (เดดพูล) ถูกดึงตัวออกจากชีวิตเกษียณอันสงบสุขโดยองค์กร Time Variance Authority (TVA) เพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญในการกอบกู้ไทม์ไลน์ เขาต้องร่วมมือกับ วูล์ฟเวอรีน จากจักรวาลคู่ขนาน (Earth-10005) ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับการล่มสลายจากฝีมือของ พาราด็อกซ์ เจ้าหน้าที่ TVA ที่นอกคอก ภารกิจของเดดพูลคือการตามหา “ตัวตนแกนหลักใหม่” (new anchor being) เพื่อรักษาไทม์ไลน์ของเขาให้คงอยู่ ซึ่งนำไปสู่การเผชิญหน้ากับ แคสซานดรา โนวา ในดินแดน The Void ที่รกร้าง การเดินทางครั้งนี้ทำให้พวกเขาต้องร่วมมือกับเหล่ามิวแทนท์ที่คุ้นเคยอย่าง เบลด, แกมบิท, อิเล็กตร้า และ X-23 เพื่อต่อสู้และปกป้องจักรวาลของวูล์ฟเวอรีนไว้ให้ได้

แก่นหลักของเรื่องไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อรักษาไทม์ไลน์ แต่ยังเป็นการเดินทางเพื่อ “ไถ่บาป” ของตัวละครทั้งสอง เดดพูลพยายามพิสูจน์ตัวเองในฐานะฮีโร่ ขณะที่วูล์ฟเวอรีนในเวอร์ชันนี้คือผู้ที่ล้มเหลวและสูญเสียทุกสิ่ง การจับคู่กันของพวกเขาสร้างไดนามิกที่น่าสนใจ บทภาพยนตร์โดดเด่นด้วยการเสียดสีและวิจารณ์ขนบของหนังซูเปอร์ฮีโร่และพหุจักรวาลอย่างตรงไปตรงมา มีบทสนทนาที่เดดพูลยอมรับว่าเขาเข้าร่วม MCU ใน “ช่วงเวลาที่ย่ำแย่” ซึ่งสะท้อนถึงสถานการณ์จริงของแฟรนไชส์ได้อย่างเจ็บแสบ การตระหนักรู้ในตัวเองนี้ช่วยสร้างความเชื่อมโยงกับผู้ชมและฟื้นฟูความไว้วางใจที่เคยสั่นคลอน

การแสดงและตัวละคร (Casting & Character)

เคมีระหว่าง ไรอัน เรย์โนลด์ส และ ฮิวจ์ แจ็คแมน คือหัวใจสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแท้จริง การกลับมารับบทบาทที่สร้างชื่อให้กับพวกเขาอีกครั้งเต็มไปด้วยพลังงานและความเข้าขาอย่างน่าทึ่ง เรย์โนลด์สยังคงเป็นเดดพูลที่เต็มไปด้วยไหวพริบและความกวนประสาท แต่ในขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นด้านที่เปราะบางและความต้องการที่จะเป็นคนที่ดีขึ้น ในขณะที่แจ็คแมนนำเสนอวูล์ฟเวอรีนในมิติที่แตกต่างออกไป เป็นเวอร์ชันที่ “เลวร้ายที่สุด” ของตัวเอง เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและความเสียใจ การได้เห็นตัวละครนี้ได้โอกาสไถ่บาปอีกครั้งจึงเป็นสิ่งที่น่าประทับใจ

นอกเหนือจากนักแสดงนำแล้ว การปรากฏตัวของตัวละครรับเชิญ (คาเมโอ) มากมายถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ฮิวแมนทอร์ช, อิเล็กตร้า หรือแกมบิท ล้วนเป็นการเติมเต็มความฝันของแฟนๆ ที่รอคอยการครอสโอเวอร์ระหว่างจักรวาล X-Men ของ Fox และ MCU มาอย่างยาวนาน การปรากฏตัวของแต่ละตัวละครถูกนำมาใช้อย่างชาญฉลาดเพื่อขับเคลื่อนเรื่องราวและสร้างความตื่นเต้น มากกว่าจะเป็นเพียงการปรากฏตัวเพื่อเรียกเสียงฮือฮาเท่านั้น

งานสร้างและองค์ประกอบศิลป์ (Production Value)

การจัดเรท R ทำให้ภาพยนตร์มีอิสระในการนำเสนอฉากแอ็คชั่นที่ดิบเถื่อนและรุนแรงสมกับเป็นวูล์ฟเวอรีนและเดดพูลอย่างแท้จริง ฉากการต่อสู้ถูกออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะการใช้กรงเล็บของวูล์ฟเวอรีนควบคู่ไปกับลีลาการต่อสู้ที่คาดเดาไม่ได้ของเดดพูล สร้างความแปลกใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจ การออกแบบงานสร้างใน The Void และฐานทัพในซากศพของแอนท์-แมน แสดงให้เห็นถึงจินตนาการที่หลุดกรอบและกล้าที่จะแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นใน MCU

การมาถึงของภาพยนตร์เรื่องนี้เปรียบเสมือน “ชัยชนะที่มาร์เวลต้องการ” เป็นการพิสูจน์ว่าพหุจักรวาลยังคงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง หากใช้อย่างมีเป้าหมายและไม่ฟุ่มเฟือยเกินไป

ที่สำคัญที่สุดคือการเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ผนวกรวมจักรวาล X-Men เข้ากับ MCU อย่างเป็นทางการหลังจากการควบรวมกิจการของ Fox ซึ่งเป็นหมุดหมายทางประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ การใช้เทคโนโลยีการเดินทางข้ามเวลาของเดดพูลเพื่อสร้างมุกตลกร้ายที่เสียดสีอดีต (เช่น การย้อนกลับไปฆ่าเดดพูลเวอร์ชันอื่น) แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในตัวละครและจักรวาลของตัวเองอย่างลึกซึ้ง

ฉาก/ไฮไลต์ที่น่าจดจำ

หนึ่งในฉากที่น่าจดจำที่สุดคือการต่อสู้ร่วมกันของเดดพูลและวูล์ฟเวอรีนภายใน The Void ที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับกองทัพของแคสซานดรา โนวา ฉากนี้ไม่ได้มีดีแค่ความยิ่งใหญ่ของสเปเชียลเอฟเฟกต์ แต่ยังเป็นการรวมพลังของเหล่ามิวแทนท์จากจักรวาล Fox ที่แฟนๆ คิดถึง การได้เห็น เบลด, แกมบิท, X-23 และอิเล็กตร้า กลับมาโลดแล่นบนจอใหญ่อีกครั้งพร้อมกับสองตัวละครนำ คือช่วงเวลาที่เติมเต็มความรู้สึกของผู้ชมอย่างสมบูรณ์แบบ มันคือการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ของหนังซูเปอร์ฮีโร่จาก Fox ก่อนที่จะส่งไม้ต่อให้กับ MCU อย่างเป็นทางการ เป็นฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ทั้งความตื่นเต้น ความคิดถึง และการยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ

สิ่งที่ชอบ (Pros)

• การฟื้นฟู MCU: ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในการจุดประกายความตื่นเต้นและสร้างความเชื่อมั่นให้กับจักรวาลมาร์เวลอีกครั้ง
• เคมีที่สมบูรณ์แบบ: การโคจรมาพบกันของเดดพูลและวูล์ฟเวอรีนคือสิ่งที่แฟนๆ รอคอย และมันก็ออกมาสมบูรณ์แบบในทุกมิติ
• การใช้พหุจักรวาลอย่างชาญฉลาด: นำเสนอการครอสโอเวอร์และคาเมโอที่น่าตื่นเต้นโดยไม่ทำให้เรื่องซับซ้อนเกินไป แต่กลับใช้เพื่อเสียดสีและวิจารณ์ตัวเอง
• บทที่ตระหนักรู้ในตัวเอง: การยอมรับจุดอ่อนของแฟรนไชส์ผ่านบทพูดของเดดพูล ช่วยสร้างความรู้สึกจริงใจและเชื่อมโยงกับผู้ชมได้ดีเยี่ยม

สิ่งที่อาจไม่ชอบ (Cons)

• อาจต้องอาศัยความรู้เดิม: ผู้ชมที่ไม่ได้ติดตามภาพยนตร์ X-Men หรือ MCU มาก่อน อาจไม่เข้าใจมุกตลกหรือการอ้างอิงถึงเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
• พึ่งพิงความคิดถึง: แม้จะทำได้ดี แต่ความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากความคิดถึง (Nostalgia) ซึ่งต้องรอดูว่า MCU จะสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต่อไปได้โดยไม่พึ่งพิงแต่อดีตได้หรือไม่

บทสรุปและคะแนน

สรุปแล้ว Deadpool & Wolverine ไม่ใช่เป็นเพียงภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญที่อาจปลดล็อกวิกฤตศรัทธาของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลได้สำเร็จ ด้วยการผสมผสานแอ็คชั่นสุดมันส์, อารมณ์ขันเสียดสีที่เฉียบคม, และการเคารพในประวัติศาสตร์ของตัวละครอย่างลึกซึ้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับหนังครอสโอเวอร์และพิสูจน์ให้เห็นว่า MCU ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่รอการบอกเล่า มันคือการเริ่มต้นใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวัง เป็นการปูทางไปสู่อนาคตที่ยิ่งใหญ่อย่าง Avengers: Secret Wars และเป็นการประกาศให้โลกรู้ว่ามาร์เวลได้กลับมาแล้วอย่างยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งกว่าเดิม

หากการลบล้างคือหนทางเดียวสู่การไถ่บาป ตัวตนที่แท้จริงของเรายังคงมีความหมายอยู่หรือไม่?

คะแนน (Score)

คำแนะนำ (Recommendation)

ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ชมทุกกลุ่มที่โหยหาความบันเทิงคุณภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:

• แฟนพันธุ์แท้ของเดดพูลและวูล์ฟเวอรีน
• ผู้ชมที่ติดตามจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) และภาพยนตร์ X-Men ของ Fox
• ผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมเมดี้ที่มีบทพูดเสียดสีและฉลาด
• ผู้ชมที่กำลังรู้สึกหมดไฟกับหนังซูเปอร์ฮีโร่และต้องการชมอะไรที่สดใหม่และแตกต่าง

“`