ก่อนดู Deadpool & Wolverine ทวนเรื่องสำคัญที่ต้องรู้

ภาพยนตร์ Deadpool & Wolverine กำลังจะกลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ด้วยการนำสองตัวละครขวัญใจมหาชนมาพบกันอย่างเป็นทางการ การเตรียมความพร้อมด้วยการทบทวนเรื่องราวและบริบทที่สำคัญจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่ออรรถรสในการรับชมสูงสุด บทความนี้จะเจาะลึกทุกประเด็นที่ต้องรู้ ตั้งแต่ประวัติของตัวละครแต่ละตัว ไปจนถึงการเชื่อมโยงของจักรวาลภาพยนตร์ที่ซับซ้อน เพื่อให้การดูหนังครั้งนี้เต็มไปด้วยความเข้าใจและสนุกไปกับทุกรายละเอียดที่ผู้สร้างซ่อนไว้

กำเนิด Deadpool: วีรบุรุษจอมทำลายกำแพงมิติที่สี่

ก่อนจะไปถึงเรื่องราวของ Deadpool & Wolverine การทำความเข้าใจที่มาของตัวละคร เวด วิลสัน หรือ Deadpool ถือเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุด เขาไม่ใช่วีรบุรุษโดยทั่วไป แต่เป็น “Anti-hero” ที่มีมิติซับซ้อนและน่าสนใจ เวด วิลสัน เคยเป็นทหารหน่วยรบพิเศษที่ผันตัวมาเป็นทหารรับจ้าง ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ความสิ้นหวังนำพาเขาไปสู่โครงการลับที่อ้างว่าจะสามารถรักษาเขาได้

โครงการดังกล่าวแท้จริงแล้วคือการทดลองเพื่อปลุกพลังมนุษย์กลายพันธุ์ในตัวเขา ผลลัพธ์คือเวดได้รับพลังในการฟื้นฟูร่างกายที่เหนือมนุษย์ ทำให้เขากลายเป็นอมตะในทางปฏิบัติ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยร่างกายและใบหน้าที่เสียโฉมอย่างรุนแรง ประสบการณ์อันเลวร้ายนี้หล่อหลอมให้เขาสร้างตัวตนใหม่ในชื่อ “Deadpool” นักฆ่าปากเสียในชุดสีแดงที่ใช้ความตลกและคำพูดยียวนกวนประสาทเป็นเกราะป้องกันความเจ็บปวดภายในใจ

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของ Deadpool คือความสามารถในการ “ทำลายกำแพงที่สี่” (Breaking the Fourth Wall) ซึ่งหมายถึงการที่ตัวละครตระหนักว่าตัวเองอยู่ในโลกสมมติ (ภาพยนตร์หรือหนังสือการ์ตูน) และสามารถสื่อสารกับผู้ชมได้โดยตรง เขามักจะพูดถึงเหตุการณ์ในโลกแห่งความจริง วิจารณ์ขนบของหนังซูเปอร์ฮีโร่ หรือแม้กระทั่งล้อเลียนนักแสดงที่รับบทเป็นเขาเอง ความสามารถนี้ทำให้เรื่องราวของเขามีความสดใหม่และคาดเดาไม่ได้เสมอ

ในภาพยนตร์สองภาคแรก เราได้เห็นการต่อสู้ของเขากับศัตรูที่สร้างบาดแผลทั้งทางกายและใจ โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับ วาเนสซา คู่รักของเขา ซึ่งเป็นแกนหลักทางอารมณ์ของเรื่อง นอกจากนี้ เขายังมีความสัมพันธ์กับตัวละครจากโลกของ X-Men อย่าง โคลอสซัส (Colossus) และ เนกาโซนิก ทีนเอจ วอร์เฮด (Negasonic Teenage Warhead) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนมโนธรรมคอยฉุดรั้งเขาไว้ และใน Deadpool 2 เขายังได้ก่อตั้งทีม X-Force ขึ้นมาเพื่อทำภารกิจสุดป่วนอีกด้วย

มรดกของ Wolverine: มนุษย์กลายพันธุ์ผู้โดดเดี่ยว

ในทางตรงกันข้ามกับ Deadpool ตัวละคร โลแกน หรือ Wolverine กลับแบกรับมรดกที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและโศกนาฏกรรม เขาคือหนึ่งในมนุษย์กลายพันธุ์ที่ทรงพลังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในจักรวาลมาร์เวล รับบทโดย ฮิวจ์ แจ็คแมน มาอย่างยาวนานจนกลายเป็นภาพจำของตัวละครนี้ไปแล้ว โลแกนมีความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายเช่นเดียวกับ Deadpool แต่เรื่องราวของเขามีโทนที่จริงจังและมืดมนกว่ามาก

ประวัติศาสตร์ของ Wolverine ทอดยาวผ่านช่วงเวลาสำคัญต่างๆ ของโลก เขาเคยเป็นทหาร ผ่านสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน และสูญเสียคนรักไปมากมาย ความทรงจำที่เจ็บปวดและความรู้สึกผิดบาปกัดกินเขาอยู่เสมอ จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขาคือการเข้าร่วมโครงการ Weapon X ที่ทำการเคลือบกระดูกทั้งร่างของเขาด้วย อะดาแมนเทียม (Adamantium) โลหะที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ทำให้กรงเล็บกระดูกของเขากลายเป็นอาวุธสังหารที่ไม่มีใครต้านทานได้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสัญลักษณ์ของความเจ็บปวดที่เขาต้องแบกรับ

Wolverine เป็นสมาชิกคนสำคัญของทีม X-Men และมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับตัวละครอื่นๆ โดยเฉพาะศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ เซเวียร์ และ จีน เกรย์ แม้ภายนอกจะดูเป็นคนหยาบกระด้างและรักสันโดษ แต่ลึกๆ แล้วเขาเป็นคนที่โหยหาการยอมรับและครอบครัว การเดินทางของเขาคือการต่อสู้กับสัญชาตญาณสัตว์ป่าในตัวเองและค้นหาความเป็นมนุษย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ ภาพยนตร์ Logan (2017) เคยถูกนำเสนอเป็นบทสรุปการเดินทางของตัวละครนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น การกลับมาของเขาใน Deadpool & Wolverine จึงสร้างทั้งความตื่นเต้นและคำถามมากมายให้กับแฟนๆ

การปะทะกันของจักรวาล: MCU, X-Men และมัลติเวิร์ส

เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดใน ก่อนดู Deadpool & Wolverine ทวนเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ คือการที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างจักรวาลภาพยนตร์ X-Men ของฟ็อกซ์ (20th Century Fox) เข้ากับจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ของมาร์เวลสตูดิโอส์อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ดิสนีย์เข้าซื้อกิจการของฟ็อกซ์ แฟนๆ ทั่วโลกต่างเฝ้ารอว่าตัวละครมนุษย์กลายพันธุ์จะถูกนำเข้ามาใน MCU อย่างไร และภาพยนตร์เรื่องนี้คือคำตอบแรก

แนวคิดเรื่อง มัลติเวิร์ส (Multiverse) หรือพหุจักรวาล ซึ่งถูกปูทางมาแล้วในเฟสที่ 4 และ 5 ของ MCU จะเป็นกุญแจสำคัญในการรวมเรื่องราวเหล่านี้เข้าด้วยกัน องค์กร Time Variance Authority (TVA) ที่เคยปรากฏในซีรีส์ Loki จะมีบทบาทสำคัญในการดึงตัว Deadpool และ Wolverine จากไทม์ไลน์ของพวกเขาเข้ามาสู่ความวุ่นวายครั้งใหม่ นี่คือการผสมผสานเรื่องราวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นการเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่ไร้ขีดจำกัดสำหรับอนาคตของ MCU

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกนำเสนอในเชิงเสียดสีว่าเป็น “ความผิดพลาดครั้งสำคัญที่สุดของมาร์เวลสตูดิโอส์” ซึ่งสะท้อนสไตล์การเล่าเรื่องแบบ Deadpool ที่พร้อมจะล้อเลียนทุกสิ่ง แม้กระทั่งสตูดิโอผู้สร้างเอง

การรวมตัวกันนี้ไม่ใช่แค่การนำตัวละครมารวมกันเท่านั้น แต่ยังเป็นการปะทะกันของ “โทนเรื่อง” ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โลกของ Deadpool เต็มไปด้วยความตลกร้าย การเสียดสี และความรุนแรงระดับเรท R ในขณะที่ MCU (โดยส่วนใหญ่) และโลกของ X-Men มีความจริงจังและโทนเรื่องที่แตกต่างออกไป การที่ตัวละครอย่าง Deadpool ซึ่งรู้ว่าตัวเองอยู่ในหนัง ได้ก้าวเข้ามาในจักรวาลที่ตัวละครอื่นๆ ไม่รู้ตัว จะสร้างสถานการณ์ที่แปลกประหลาดและน่าสนใจอย่างยิ่ง

สไตล์และแก่นเรื่อง: เมื่อความตลกร้ายมาพบกับโศกนาฏกรรม

หัวใจของ Deadpool & Wolverine คือการจับคู่ตัวละครที่มีพื้นเพและมุมมองต่อโลกต่างกันสุดขั้วมาไว้ด้วยกัน Deadpool ใช้ความตลกเป็นเครื่องมือในการรับมือกับความเจ็บปวด ส่วน Wolverine แบกรับความเจ็บปวดนั้นไว้กับตัวจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวตน การเดินทางร่วมกันของทั้งสองจึงไม่ใช่แค่การต่อสู้กับวายร้ายภายนอก แต่ยังเป็นการสำรวจบาดแผลภายในของแต่ละคนด้วย

ภาพยนตร์เรื่องนี้คาดว่าจะเต็มไปด้วย Easter Eggs และการอ้างอิงถึงภาพยนตร์ในจักรวาลมาร์เวลทั้งเก่าและใหม่ ไม่ว่าจะเป็น X-Men, Fantastic Four, หรือแม้แต่หนังเรื่องอื่นๆ ของ MCU เอง ซึ่งเป็นสวรรค์ของแฟนๆ ที่ชอบการสังเกตและค้นหารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ซ่อนอยู่ นอกจากนี้ สไตล์การกำกับจะยังคงเอกลักษณ์ของ Deadpool ไว้ คือความรวดเร็ว ดิบเถื่อน และไม่เกรงใจใคร ซึ่งจะเป็นมิติใหม่สำหรับตัวละคร Wolverine ที่ผู้ชมคุ้นเคยในบริบทที่ดราม่ากว่า

แก่นเรื่องสำคัญอาจเป็นการตั้งคำถามเกี่ยวกับบทบาทของ “ฮีโร่” ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย Deadpool ไม่เคยต้องการเป็นฮีโร่ ส่วน Wolverine ก็เหนื่อยล้ากับการเป็นฮีโร่มาทั้งชีวิต การที่ทั้งคู่ต้องมาร่วมมือกันอาจเป็นการบังคับให้พวกเขาต้องนิยามความเป็นฮีโร่ในแบบของตัวเองใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางความโกลาหลของมัลติเวิร์สที่กำลังจะล่มสลาย

เตรียมตัวให้พร้อม: หนังเรื่องไหนที่ควรทบทวน

เพื่อให้เข้าใจบริบทและสนุกกับมุกตลกได้อย่างเต็มที่ การทบทวนภาพยนตร์บางเรื่องก่อนไปดู Deadpool & Wolverine จะเป็นประโยชน์อย่างมาก:

• Deadpool (2016) และ Deadpool 2 (2018): เป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เพื่อทำความเข้าใจที่มาที่ไป นิสัยใจคอ และความสัมพันธ์ของ Deadpool กับตัวละครรอบข้าง
• X-Men Origins: Wolverine (2009): แม้จะเป็นภาคที่ได้รับคำวิจารณ์หลากหลาย แต่เป็นภาคที่นำเสนอ Deadpool (ในเวอร์ชันที่แตกต่าง) มาพบกับ Wolverine เป็นครั้งแรก ซึ่งภาพยนตร์ใหม่อาจมีการล้อเลียนเหตุการณ์ในภาคนี้
• X-Men: Days of Future Past (2014): เพื่อทำความเข้าใจแนวคิดเรื่องการเดินทางข้ามเวลาและไทม์ไลน์ที่แตกต่างกันของจักรวาล X-Men
• Logan (2017): เพื่อซึมซับบทสรุปการเดินทางของ Wolverine ในไทม์ไลน์เดิม ซึ่งจะทำให้การกลับมาของเขาในครั้งนี้มีความหมายและส่งผลกระทบทางอารมณ์มากขึ้น
• ซีรีส์ Loki (Season 1 & 2): แม้จะไม่ใช่ภาพยนตร์ แต่การทำความเข้าใจการทำงานขององค์กร TVA และกฎเกณฑ์ของมัลติเวิร์สจากซีรีส์เรื่องนี้ จะช่วยให้เข้าใจโครงเรื่องหลักของ Deadpool & Wolverine ได้ง่ายขึ้นอย่างมาก

บทสรุป: การเดินทางสู่ความวุ่นวายครั้งใหม่

การมาถึงของ Deadpool & Wolverine ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่ แต่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนโฉมหน้าของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล การเตรียมตัวด้วยการทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ของตัวละครทั้งสอง การเชื่อมโยงของจักรวาลต่างๆ และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของภาพยนตร์ จะทำให้ผู้ชมสามารถดื่มด่ำกับประสบการณ์ได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ฉากแอ็คชั่นสุดมัน ไปจนถึงมุกตลกร้ายที่เสียดสีทุกสิ่ง และที่สำคัญที่สุดคือการได้เห็นเคมีการแสดงของ ไรอัน เรย์โนลส์ และ ฮิวจ์ แจ็คแมน ที่แฟนๆ ทั่วโลกรอคอยมานาน

นี่คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง รุนแรง และตลกขบขัน แต่ในขณะเดียวกันก็อาจซ่อนการสำรวจจิตใจที่เปราะบางของสองตัวละครที่แตกต่างกันสุดขั้วเอาไว้ การทบทวนข้อมูลเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนการเตรียมเครื่องมือให้พร้อม ก่อนที่จะกระโจนเข้าสู่ความวุ่นวายครั้งประวัติศาสตร์ของ MCU

เมื่อตัวละครตระหนักรู้ว่าตนเป็นเพียงเรื่องเล่า โศกนาฏกรรมของพวกเขายังคงมีความหมายอยู่หรือไม่?