รีวิว Hierarchy ซีรีส์ใหม่ แค่ Elite เวอร์ชั่นเกาหลี?
ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้:
- Hierarchy (วัยมันส์ ตระกูลดัง) คือซีรีส์เกาหลีออริจินัลจาก Netflix ที่นำเสนอเรื่องราวของโรงเรียนมัธยมปลายสุดหรู ซึ่งถูกควบคุมโดยกลุ่มนักเรียนทายาทตระกูลแชโบล (Chaebol)
- โครงเรื่องหลักขับเคลื่อนด้วยการมาถึงของนักเรียนทุนปริศนา ที่เข้ามาเพื่อสืบหาความจริงเบื้องหลังการเสียชีวิตของพี่ชาย ซึ่งเป็นการท้าทายระเบียบและโครงสร้างอำนาจเดิมของโรงเรียน
- ซีรีส์เรื่องนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับซีรีส์สเปนชื่อดังอย่าง Elite อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่บทวิจารณ์ส่วนใหญ่มองว่า Hierarchy ขาดความเข้มข้นและความลุ่มลึกในการวิพากษ์สังคม
- แม้ว่าบทภาพยนตร์และการพัฒนาตัวละครจะถูกวิจารณ์ว่ายังไม่ถึงจุดสูงสุด แต่การแสดงของทีมนักแสดงรุ่นใหม่ได้รับคำชมว่าสามารถประคองเรื่องราวไว้ได้
- ซีรีส์มีทั้งหมด 7 ตอนจบ โดยทิ้งปมบางอย่างไว้ซึ่งเปิดโอกาสให้มีภาคต่อ แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
การเปิดตัวซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ที่พาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกของโรงเรียนมัธยมปลายสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า รีวิว Hierarchy ซีรีส์ใหม่ แค่ Elite เวอร์ชั่นเกาหลี? ซีรีส์เรื่องนี้เล่าถึงโรงเรียนมัธยมปลายจูชิน (Jooshin High School) สถาบันการศึกษาที่ก่อตั้งโดยกลุ่มบริษัทชั้นนำของเกาหลีใต้ ที่นี่ไม่ใช่แค่โรงเรียน แต่เป็นโลกจำลองที่สะท้อนลำดับชั้นทางสังคมอย่างชัดเจนที่สุด นักเรียนที่นี่คือทายาทของผู้ทรงอิทธิพล และระเบียบของโรงเรียนก็ถูกกำหนดโดยกลุ่มนักเรียนระดับบนสุด จนกระทั่งการมาถึงของคังฮา นักเรียนทุนผู้มีความลับดำมืดซ่อนอยู่ ได้เข้ามาสั่นคลอนรากฐานของโครงสร้างอำนาจที่ดูเหมือนจะมั่นคงนี้
ซีรีส์เรื่องนี้สำรวจประเด็นความขัดแย้งทางชนชั้น การแก้แค้น และความสัมพันธ์ต้องห้ามที่เกิดขึ้นภายในรั้วโรงเรียน ซึ่งเป็นธีมที่คุ้นเคยในซีรีส์แนววัยรุ่นระทึกขวาง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ Hierarchy ถูกจับตามองเป็นพิเศษคือการเปรียบเทียบกับซีรีส์สัญชาติสเปนที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายอย่าง Elite ซึ่งมีแก่นเรื่องคล้ายคลึงกัน การวิเคราะห์เจาะลึกจึงไม่ใช่แค่การตัดสินว่าซีรีส์เรื่องนี้สนุกหรือไม่ แต่เป็นการพิจารณาว่ามันสามารถสร้างอัตลักษณ์ของตัวเอง หรือเป็นเพียงเงาของผลงานที่ประสบความสำเร็จกว่าได้สำเร็จหรือไม่
ภาพรวมและความรู้สึกแรก

Hierarchy เปิดฉากด้วยบรรยากาศที่หรูหราแต่แฝงไปด้วยความกดดันและอำนาจมืด โรงเรียนมัธยมปลายจูชินคือภาพสะท้อนของสังคมเกาหลีที่ขับเคลื่อนด้วยอำนาจและเส้นสายของกลุ่มแชโบล เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ คังฮา นักเรียนทุนที่ดูภายนอกสดใสร่าเริง ก้าวเข้ามาในโรงเรียนแห่งนี้พร้อมกับเป้าหมายลับในการเปิดโปงความจริงเกี่ยวกับการตายของพี่ชาย การมาของเขาเปรียบเสมือนก้อนหินที่ถูกโยนลงไปในน้ำนิ่ง ทำให้คลื่นใต้น้ำที่ซ่อนอยู่ปะทุขึ้นมาบนผิวน้ำทันที ความรู้สึกแรกหลังจากการรับชมคือความสวยงามของงานสร้างที่น่าประทับใจ แต่ในขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพล็อตที่คุ้นเคย ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าซีรีส์จะสามารถนำเสนอความแปลกใหม่ที่แตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ ในแนวเดียวกันได้หรือไม่
บทวิจารณ์เชิงลึก
ในการเจาะลึกถึงแก่นแท้ของ Hierarchy จำเป็นต้องวิเคราะห์องค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งในด้านโครงเรื่อง ตัวละคร และการผลิต เพื่อทำความเข้าใจว่าซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในมิติใดบ้าง และสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองในฐานะผลงานที่น่าจดจำได้หรือไม่
โครงเรื่องและบท (Script & Plot)
จุดแข็งของ Hierarchy คือการวางโครงเรื่องหลักที่น่าสนใจ การแก้แค้นของนักเรียนทุนที่แทรกซึมเข้าไปในโลกของอภิสิทธิ์ชนเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับครอบครัวเป็นพล็อตที่มีศักยภาพสูงในการสร้างความตึงเครียดและดึงดูดอารมณ์ร่วมของผู้ชม อย่างไรก็ตาม บทภาพยนตร์กลับเดินเรื่องในทิศทางที่ค่อนข้างคาดเดาได้ง่ายและใช้สูตรสำเร็จของ K-drama มากเกินไป ประเด็นความขัดแย้งทางชนชั้นที่ควรจะเป็นหัวใจหลักของเรื่อง ถูกลดทอนความสำคัญลงเมื่อซีรีส์หันไปให้ความสำคัญกับเรื่องราวความรักสามเส้าและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของตัวละคร ซึ่งแม้จะสร้างความบันเทิงได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ทำให้การวิพากษ์วิจารณ์สังคมที่ตั้งใจไว้ดูผิวเผินลงไป
แม้จะตั้งใจสะท้อนปัญหาสังคม แต่ซีรีส์กลับถูกวิจารณ์ว่าขาดความลึกซึ้งและกลายเป็นส่วนผสมของพล็อต K-drama ที่ซ้ำซาก ขาดความแหลมคมในการสำรวจโครงสร้างอำนาจอย่างแท้จริง
การดำเนินเรื่องใน 7 ตอนถือว่ากระชับ แต่ในบางช่วงกลับรู้สึกว่าช้าเกินไป ทำให้ความลึกลับและความระทึกขวัญที่ควรจะมีลดน้อยลง จุดหักเหสำคัญในเรื่องมักจะถูกเปิดเผยออกมาโดยขาดชั้นเชิง ทำให้ผู้ชมที่คุ้นเคยกับซีรีส์แนวนี้สามารถคาดเดาได้ไม่ยากนัก แม้ว่าตอนจบจะทิ้งท้ายไว้ให้มีภาคต่อ แต่ปมปริศนาหลักของเรื่องก็ถูกคลี่คลายไปเกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งอาจทำให้ความน่าติดตามสำหรับซีซั่นต่อไปลดลง
การแสดงและตัวละคร (Casting & Character)
หนึ่งในองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดของ Hierarchy คือการแสดงของทีมนักแสดงรุ่นใหม่ พวกเขาสามารถถ่ายทอดบทบาทของกลุ่มวัยรุ่นที่เติบโตมาในโลกที่เต็มไปด้วยอภิสิทธิ์และความกดดันได้อย่างน่าเชื่อถือ เคมีระหว่างนักแสดงนำช่วยทำให้ฉากที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ดูน่าติดตามและมีมิติทางอารมณ์ แม้ว่าบทจะไม่ได้ส่งเสริมให้ตัวละครมีความลึกซึ้งมากนักก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาของตัวละครกลับเป็นจุดที่น่าเสียดาย ตัวละครหลักอย่างคังฮา ซึ่งควรจะเป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลง กลับมีมิติที่ค่อนข้างแบนราบ แรงจูงใจในการแก้แค้นของเขาชัดเจน แต่การกระทำในหลายครั้งกลับดูไม่สมเหตุสมผลนัก ในขณะที่กลุ่มตัวละครชนชั้นสูงก็ถูกนำเสนอในภาพลักษณ์ที่ค่อนข้างเป็นแบบฉบับ (stereotype) คือ เย็นชา เอาแต่ใจ และใช้อำนาจในทางที่ผิด โดยขาดการสำรวจเบื้องหลังทางจิตใจที่ทำให้พฤติกรรมของพวกเขามีน้ำหนักมากขึ้น สิ่งนี้ทำให้ผู้ชมอาจรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละครได้ยาก และมองว่าพวกเขาเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมการแก้แค้นมากกว่าที่จะเป็นมนุษย์ที่มีความซับซ้อน
งานสร้างและองค์ประกอบศิลป์ (Production Value)
ในด้านงานสร้าง Hierarchy ทำออกมาได้อย่างไม่มีที่ติ สมกับเป็นผลงานจาก Studio Dragon ซึ่งมีชื่อเสียงในการผลิตซีรีส์คุณภาพสูง การออกแบบฉากโรงเรียนจูชินมีความหรูหราและโอ่อ่า สะท้อนถึงโลกของอภิสิทธิ์ชนได้อย่างชัดเจน การถ่ายภาพและมุมกล้องมีความสวยงามเชิงศิลป์ การเลือกใช้โทนสีและแสงช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ทั้งงดงามและน่าอึดอัดไปพร้อมกัน
เครื่องแต่งกายของตัวละครก็เป็นอีกส่วนที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี โดยเฉพาะเครื่องแบบนักเรียนที่เป็นเอกลักษณ์ และเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันของเหล่าทายาทแชโบลที่สะท้อนถึงสถานะทางสังคมของแต่ละคนได้อย่างชัดเจน ดนตรีประกอบก็ถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสมเพื่อสร้างอารมณ์ในแต่ละฉาก โดยรวมแล้ว งานสร้างที่ยอดเยี่ยมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูเพลินและน่าติดตาม แม้ว่าเนื้อเรื่องจะมีจุดที่น่าผิดหวังอยู่บ้างก็ตาม
| องค์ประกอบ | Hierarchy (วัยมันส์ ตระกูลดัง) | Elite (เล่ห์ร้ายเกมไฮโซ) |
|---|---|---|
| ประเด็นทางสังคม | เน้นเรื่องลำดับชั้นและอำนาจของกลุ่มแชโบล แต่การนำเสนอค่อนข้างผิวเผินและถูกกลบด้วยพล็อตโรแมนติก | วิพากษ์วิจารณ์ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น ประเด็นเชื้อชาติ ศาสนา และ LGBTQ+ อย่างเข้มข้นและตรงไปตรงมา |
| ความเข้มข้นและจังหวะ | การดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า มีความ predictable สูง และขาดความระทึกขวัญที่บีบคั้นอารมณ์ | ดำเนินเรื่องรวดเร็ว เต็มไปด้วยจุดหักมุมที่น่าตกใจและคาดไม่ถึง ทำให้ผู้ชมต้องติดตามอย่างใกล้ชิด |
| การพัฒนาตัวละคร | ตัวละครมีมิติไม่ซับซ้อน แรงจูงใจค่อนข้างตายตัว และพัฒนาการไม่ชัดเจนนัก | ตัวละครมีความซับซ้อนทางศีลธรรม (morally grey) มีพัฒนาการที่น่าสนใจและสมจริงตลอดทั้งซีรีส์ |
| ความเป็นต้นฉบับ | ถูกมองว่าเดินตามรอยซีรีส์แนวเดียวกัน และใช้สูตรสำเร็จของ K-drama ที่คุ้นเคย | สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับซีรีส์แนววัยรุ่นระทึกขวัญ ด้วยการผสมผสานประเด็นสังคมเข้ากับความลึกลับอย่างลงตัว |
สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ
หลังจากพิจารณาองค์ประกอบต่าง ๆ สามารถสรุปข้อดีและข้อเสียที่สำคัญของซีรีส์เรื่องนี้ได้ดังนี้
สิ่งที่ชอบ:
- งานภาพและการผลิต: ซีรีส์มีโปรดักชันที่ยอดเยี่ยม ทั้งฉาก เครื่องแต่งกาย และการถ่ายทำที่สวยงาม ทำให้ประสบการณ์การรับชมมีความเพลิดเพลินทางสายตา
- การแสดงของนักแสดง: ทีมนักแสดงรุ่นใหม่สามารถถ่ายทอดบทบาทของตนเองได้เป็นอย่างดีและเป็นส่วนที่ช่วยยกระดับซีรีส์ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น
- แนวคิดเริ่มต้นที่น่าสนใจ: พล็อตเรื่องเกี่ยวกับการท้าทายโครงสร้างอำนาจในโรงเรียนของกลุ่มอภิสิทธิ์ชนเป็นแนวคิดที่มีศักยภาพและดึงดูดความสนใจได้เสมอ
สิ่งที่ไม่ชอบ:
- บทที่คาดเดาง่าย: การดำเนินเรื่องขาดความซับซ้อนและจุดหักมุมที่น่าจดจำ ทำให้ความตื่นเต้นและความลึกลับลดลงอย่างมาก
- การวิพากษ์สังคมที่ผิวเผิน: ประเด็นความขัดแย้งทางชนชั้นถูกนำเสนออย่างไม่ลึกซึ้งพอ ทำให้ซีรีส์พลาดโอกาสที่จะสร้างผลกระทบทางความคิดที่ทรงพลัง
- ขาดความเป็นต้นฉบับ: ซีรีส์มีความคล้ายคลึงกับผลงานเรื่องอื่นในแนวเดียวกันมากเกินไป โดยเฉพาะ Elite จนทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเวอร์ชันที่ลดทอนความเข้มข้นลง
บทสรุปและคะแนน
สรุปแล้ว คำถามที่ว่า รีวิว Hierarchy ซีรีส์ใหม่ แค่ Elite เวอร์ชั่นเกาหลี? คำตอบอาจจะเอนเอียงไปในทางที่ “ใช่” และเป็นเวอร์ชันที่ไม่สามารถเทียบเคียงกับความสำเร็จของต้นแบบได้ ซีรีส์เรื่องนี้พยายามที่จะผสมผสานความลึกลับของการสืบสวนเข้ากับการวิพากษ์สังคมในรั้วโรงเรียน แต่กลับทำได้ไม่สุดทางในทุกด้าน มันกลายเป็นซีรีส์วัยรุ่นที่มีงานสร้างดีเยี่ยมและนักแสดงมีเสน่ห์ แต่ขาดหัวใจสำคัญคือบทภาพยนตร์ที่เฉียบคมและกล้าหาญ
Hierarchy อาจมอบความบันเทิงให้กับผู้ชมที่กำลังมองหาซีรีส์เกาหลีที่ดูง่าย มีเรื่องราวความรักและดราม่าของวัยรุ่น แต่สำหรับผู้ที่คาดหวังจะเห็นการตีแผ่ปัญหาสังคมที่ลึกซึ้งและโครงเรื่องที่ซับซ้อน อาจจะต้องรู้สึกผิดหวัง นี่คือผลงานที่สวยงามแต่ว่างเปล่า เปรียบเสมือนปราสาทแก้วที่ดูงดงามจากภายนอก แต่ภายในกลับเปราะบางและไร้ซึ่งรากฐานที่มั่นคง
คะแนน (Score)
เป็นซีรีส์ที่มีภาพสวยงามและการแสดงที่ดี แต่ล้มเหลวในการสร้างสรรค์เรื่องราวที่แปลกใหม่และน่าจดจำ
คำแนะนำ (Recommendation)
Hierarchy เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์เกาหลีแนวโรงเรียนมัธยมที่มีงานสร้างคุณภาพสูง และเน้นเรื่องราวดราม่าความสัมพันธ์ของตัวละครเป็นหลัก หากเป็นแฟนคลับของนักแสดงนำ ซีรีส์เรื่องนี้ก็อาจจะคุ้มค่าแก่การรับชม อย่างไรก็ตาม ผู้ที่คาดหวังความระทึกขวัญ การสืบสวนที่เข้มข้น และการวิพากษ์สังคมที่เฉียบคมแบบในซีรีส์ Elite ควรจะลดความคาดหวังลงอย่างมากก่อนเริ่มรับชม
หากโครงสร้างอำนาจที่มองไม่เห็นคือสิ่งที่ค้ำจุนสังคมไว้ การทลายมันลงจะนำมาซึ่งอิสรภาพหรือความโกลาหลที่ร้ายแรงกว่าเดิม?
