รีวิว Hierarchy ซีรีส์ใหม่ Netflix แฉด้านมืดโรงเรียนหรู

รีวิว Hierarchy ซีรีส์ใหม่ Netflix แฉด้านมืดโรงเรียนหรู กลายเป็นประเด็นถกเถียงทันทีที่ออกอากาศ ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้เจาะลึกเข้าไปในโลกของโรงเรียนมัธยมจูชิน สถาบันที่สงวนไว้สำหรับนักเรียนเพียง 0.01% ของประเทศ ที่ซึ่งกฎหมายและศีลธรรมเป็นเพียงสิ่งสมมติ และอำนาจที่แท้จริงถูกกำหนดโดยสายเลือดและเงินตรา เมื่อนักเรียนทุนคนใหม่ก้าวเข้ามาพร้อมกับความลับดำมืด กำแพงที่ดูแข็งแกร่งของระเบียบชั้นสูงจึงเริ่มปรากฏรอยร้าว ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงละครวัยรุ่น แต่คือการตั้งคำถามถึงโครงสร้างทางสังคมที่กดทับและธรรมชาติของมนุษย์ที่โหยหาอำนาจ

Hierarchy (วังวนสงครามชนชั้น) พยายามสร้างโลกที่ความเหลื่อมล้ำถูกทำให้เป็นเรื่องปกติ ตั้งแต่เนคไทคนละสีที่แบ่งแยกนักเรียนทุนออกจากกลุ่มอภิสิทธิ์ชน ไปจนถึงการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นอย่างโจ่งแจ้งโดยไม่มีใครกล้าขัดขวาง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนักเรียนทุนคนก่อน นำมาซึ่งการมาถึงของคังฮา (รับบทโดย อีแชมิน) เด็กหนุ่มผู้มีรอยยิ้มสดใสแต่แววตาซ่อนเป้าหมายบางอย่าง การแทรกซึมของเขาเข้าไปในใจกลางกลุ่มผู้มีอำนาจสูงสุด ซึ่งนำโดยราชินีของโรงเรียน จองแจอี (รับบทโดย โนจองอี) ได้จุดชนวนสงครามประสาทที่เดิมพันด้วยชีวิตและความลับที่อาจทำลายทุกสิ่ง

ภาพรวมและความรู้สึกแรก

ทันทีที่เปิดฉาก Hierarchy สร้างความรู้สึกอึดอัดและน่าติดตามไปพร้อมกัน โลกของโรงเรียนมัธยมจูชินถูกนำเสนออย่างหรูหราแต่เย็นชา เป็นภาพสะท้อนของสังคมที่วัดคุณค่าของคนจากสถานะทางการเงิน ซีรีส์ดึงดูดผู้ชมด้วยปริศนาการตายและความคาดหวังที่จะได้เห็นการล้างแค้นที่สาสมของตัวเอก แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ความรู้สึกตื่นเต้นกลับค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกที่คุ้นเคยของพล็อตละครรักวัยรุ่นเกาหลี ทำให้ภาพรวมของซีรีส์นั้นดูเหมือนเรือที่ตั้งเป้าจะข้ามมหาสมุทร แต่สุดท้ายกลับวนเวียนอยู่ในอ่าวที่ปลอดภัยและจำเจ

บทวิจารณ์เชิงลึก

ในการวิเคราะห์เชิงลึก ซีรีส์เรื่องนี้มีทั้งจุดแข็งที่น่าชื่นชมและจุดอ่อนที่น่าเสียดาย การผสมผสานระหว่างแนวทริลเลอร์สืบสวน ดราม่าชนชั้น และโรแมนติกวัยรุ่น เป็นความท้าทายที่ซีรีส์ยังไม่สามารถหลอมรวมองค์ประกอบเหล่านี้ได้อย่างกลมกลืนนัก

โครงเรื่องและบท (Script & Plot)

โครงเรื่องของ Hierarchy มีศักยภาพสูงในการเป็นซีรีส์เสียดสีสังคมที่เข้มข้น การวางปมปริศนาในช่วงต้นทำได้อย่างน่าสนใจ และการนำเสนอการแบ่งแยกชนชั้นที่ชัดเจนก็สร้างความขัดแย้งที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม บทภาพยนตร์กลับเดินไปในทิศทางที่ปลอดภัยเกินไป การแก้แค้นที่ควรจะเป็นแกนหลักของเรื่องกลับถูกเล่าอย่างรวบรัดและจบลงอย่างง่ายดาย ขาดซึ่งความสะใจหรือผลกระทบที่รุนแรงต่อโครงสร้างอำนาจเดิม

ซีรีส์ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพัฒนาความสัมพันธ์รักสามเส้าระหว่าง คังฮา, แจอี และรีอัน (รับบทโดย คิมแจวอน) ซึ่งแม้จะมีฉากที่น่าจดจำ แต่ก็ทำให้ประเด็นการต่อสู้ทางชนชั้นที่ปูมาอย่างดีในช่วงแรกถูกลดทอนความสำคัญลงไป บทสนทนาบางส่วนพยายามจะเสียดสี แต่ก็มักจะตกอยู่ในกับดักของถ้อยคำที่สวยหรูแต่กลวงเปล่า ทำให้สารที่ต้องการจะสื่อไปไม่ถึงผู้ชมอย่างที่ควรจะเป็น

การแสดงและตัวละคร (Casting & Character)

ด้านการแสดงถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งของซีรีส์ โนจองอี ในบท จองแจอี สามารถถ่ายทอดมิติของตัวละครที่ซับซ้อนได้อย่างน่าทึ่ง เธอเป็นทั้งราชินีผู้เย่อหยิ่งและเด็กสาวที่เปราะบางภายใต้แรงกดดันของครอบครัวได้อย่างน่าเชื่อถือ ขณะที่ คิมแจวอน ในบท คิมรีอัน ก็แสดงออกถึงความเป็นผู้นำที่เย็นชาแต่ลึกๆ แล้วกลับโหยหาความรักได้อย่างมีเสน่ห์

อย่างไรก็ตาม อีแชมิน ในบท คังฮา ตัวเอกผู้ควรจะเป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลง กลับดู “จืดชืด” และขาดพลังในการขับเคลื่อนเรื่องราว แม้ว่าเบื้องหลังของตัวละครจะน่าเห็นใจ แต่การแสดงออกกลับไม่สามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกร่วมไปกับภารกิจการแก้แค้นของเขาได้มากพอ ทำให้ตัวละครสมทบอย่าง แจอี และ รีอัน กลับดูโดดเด่นและน่าจดจำกว่าตัวเอกเสียอีก

งานสร้างและองค์ประกอบศิลป์ (Production Value)

งานสร้างของ Hierarchy มีความโดดเด่นและทุ่มเทอย่างเห็นได้ชัด การออกแบบฉากโรงเรียนจูชินให้ความรู้สึกโอ่อ่าและยิ่งใหญ่สมกับเป็นสถานศึกษาของเหล่าอภิสิทธิ์ชน การถ่ายภาพ (Cinematography) ใช้มุมกล้องและแสงสีเพื่อขับเน้นความแตกต่างระหว่างโลกที่สวยงามภายนอกกับความเน่าเฟะที่ซ่อนอยู่ภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดนตรีประกอบและเพลงประกอบซีรีส์ก็ถูกเลือกมาใช้ในจังหวะที่เหมาะสม ช่วยเสริมสร้างอารมณ์ในฉากดราม่าและโรแมนติกได้เป็นอย่างดี

กระนั้น ความพยายามที่จะสร้างภาพลักษณ์ให้ดูหรูหราและมีความเป็นสากลคล้ายกับซีรีส์วัยรุ่นไฮโซของอเมริกา กลับทำให้ซีรีส์ขาดความเป็นธรรมชาติและดู “ประดิษฐ์” เกินไปในบางครั้ง ความสมจริงของชีวิตนักเรียนมัธยมปลายจึงเลือนหายไป ถูกแทนที่ด้วยภาพฝันที่สวยงามแต่จับต้องไม่ได้

สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ

บทสรุปและคะแนน

สรุปแล้ว Hierarchy เป็นซีรีส์ที่ดูเพลินและมีงานสร้างที่น่าประทับใจ แต่กลับไปไม่สุดในทางที่ตั้งใจไว้ จากซีรีส์ที่ควรจะเป็นการแฉด้านมืดและท้าทายโครงสร้างอำนาจอย่างดุเดือด กลับกลายเป็นเพียงละครรักวัยรุ่นในรั้วโรงเรียนหรูที่ผู้ชมเคยเห็นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน มันคือความพยายามที่น่าชื่นชมในการหยิบยกประเด็นที่หนักอึ้งมาเล่า แต่ขาดความกล้าที่จะขยี้ประเด็นนั้นให้ถึงแก่นแท้ ทำให้สุดท้ายแล้วสารที่ต้องการจะสื่อก็จางหายไปกับความสวยงามของภาพและเรื่องราวความรักที่ผิวเผิน

คะแนน (Score)

คำแนะนำ (Recommendation)

Hierarchy เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์เกาหลีแนววัยรุ่นที่มีงานภาพสวยงาม เน้นเรื่องราวความรักในโรงเรียน และมีปมดราม่าให้ติดตามพอหอมปากหอมคอ หากเป็นแฟนของซีรีส์อย่าง The Heirs หรือ Boys Over Flowers และไม่คาดหวังการวิพากษ์สังคมที่ลึกซึ้ง ก็สามารถรับชมได้อย่างเพลิดเพลิน แต่สำหรับผู้ที่มองหาซีรีส์แก้แค้นที่เข้มข้นและสาสมอย่าง The Glory หรือการเสียดสีสังคมที่เฉียบคมแบบ SKY Castle อาจจะต้องผิดหวังกับทิศทางของเรื่องนี้

หาก ‘ระเบียบ’ คือสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องผู้มีอำนาจ การทำลายระเบียบนั้นคือความวุ่นวายหรือคือจุดเริ่มต้นของความยุติธรรมที่แท้จริง?