อนาคต Pirates of the Caribbean: รีบูทใหม่ไร้เงาเดปป์?

แฟรนไชส์ภาพยนตร์โจรสลัดในตำนานกำลังจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คำถามสำคัญที่แฟนๆ ทั่วโลกต่างจับตามองคือ อนาคต Pirates of the Caribbean: รีบูทใหม่ไร้เงาเดปป์? ซึ่งประเด็นนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของบทสนทนา หลังจากมีข่าวยืนยันจากทาง Disney ว่าภาพยนตร์ภาคที่ 6 กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาในรูปแบบของการรีบูททั้งหมด สถานะของแฟรนไชส์และบทบาทของตัวละครอันเป็นที่รักอย่างกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ จึงตกอยู่ในความไม่แน่นอนที่น่าติดตามอย่างยิ่ง

ประเด็นสำคัญที่น่าจับตา

• การยืนยันรีบูทอย่างเป็นทางการ: Disney ได้ยืนยันว่า Pirates of the Caribbean 6 กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอย่างแข็งขัน โดยจะเป็นการรีบูทแฟรนไชส์ทั้งหมด
• อนาคตของ Johnny Depp ยังคลุมเครือ: แม้จะมีการพูดคุยเกิดขึ้น แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทั้ง Disney หรือตัว Johnny Depp เองเกี่ยวกับการกลับมารับบทกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์
• กลยุทธ์บทภาพยนตร์สองฉบับ: ผู้อำนวยการสร้าง เจอร์รี บรัคไฮเมอร์ เปิดเผยว่ากำลังมีการเขียนบทภาพยนตร์สองเวอร์ชันควบคู่กันไป เพื่อเปิดกว้างสำหรับทิศทางที่แตกต่างกันของแฟรนไชส์
• ความเป็นไปได้ในการกลับมาของตัวละครดั้งเดิม: มีรายงานว่าตัวละครหลักอย่าง วิล เทิร์นเนอร์ และ อลิซาเบธ สวอนน์ อาจปรากฏตัวในภาพยนตร์ภาคใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของ Johnny Depp
• นักแสดง Margot Robbie ยังคงมีส่วนร่วม: ข่าวลือที่ว่า Margot Robbie ได้ถอนตัวออกจากโปรเจกต์นั้นไม่เป็นความจริง โดยเธอยังคงมีส่วนร่วมในภาพยนตร์ภาคแยกที่กำลังจะมาถึง

บทนำ: คลื่นลูกใหม่แห่งท้องทะเลแคริบเบียน

นับตั้งแต่ภาพยนตร์ Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales ออกฉายในปี 2017 แฟรนไชส์นี้ก็เข้าสู่ภาวะหยุดนิ่งเป็นเวลานาน การประกาศอย่างเป็นทางการจาก Disney ว่ากำลังเดินหน้าพัฒนาภาคที่ 6 ในรูปแบบของการรีบูทจึงเปรียบเสมือนการส่งสัญญาณถึงการเริ่มต้นยุคใหม่ การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความคาดหวังของแฟนๆ ทั่วโลกที่ต้องการเห็นการผจญภัยครั้งใหม่ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความกังวลต่ออนาคตของตัวละครที่เป็นหัวใจของเรื่องราวอย่างกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ ซึ่งรับบทโดย Johnny Depp การรีบูทครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ แต่เป็นการเดิมพันครั้งสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของแฟรนไชส์มูลค่าหลายพันล้านเหรียญนี้ในทศวรรษต่อไป

สถานะการพัฒนา: สองเส้นทางสู่การผจญภัยครั้งใหม่

โปรเจกต์ Pirates of the Caribbean 6 เผชิญกับความล่าช้ามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการประกาศครั้งแรกในปี 2018 โดยมีการเปลี่ยนทีมเขียนบทหลายครั้ง เริ่มจาก Rhett Reese และ Paul Wernick ซึ่งถอนตัวไปในปี 2019 ก่อนที่ Craig Mazin และ Ted Elliott จะเข้ามารับช่วงต่อ โดยมี Joachim Rønning ผู้กำกับจากภาคที่แล้ว กลับมารับหน้าที่เดิมอีกครั้ง

เจอร์รี บรัคไฮเมอร์ ผู้อำนวยการสร้างผู้กุมบังเหียนโปรเจกต์นี้ ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ขณะนี้กำลังมีการพัฒนาบทภาพยนตร์ถึง สองฉบับที่แตกต่างกัน ควบคู่กันไป กลยุทธ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของ Disney ที่ต้องการเปิดทางเลือกไว้สำหรับทิศทางของแฟรนไชส์ในอนาคต แนวทางหนึ่งอาจเป็นการสานต่อเรื่องราวโดยมีตัวละครดั้งเดิมเข้ามาเกี่ยวข้อง ในขณะที่อีกแนวทางหนึ่งอาจเป็นการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด การมีบทภาพยนตร์สองเวอร์ชันช่วยให้สตูดิโอสามารถประเมินและตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดได้ โดยคำนึงถึงทั้งความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ และความคาดหวังของแฟนๆ ที่มีต่อตัวละครเก่าๆ รวมถึงกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์

เงาของกัปตันแจ็ค: การกลับมาที่ยังไร้คำตอบ

ประเด็นที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่ถกเถียงกันมากที่สุดคือการกลับมาของ Johnny Depp ในบทบาทที่สร้างชื่อให้กับเขา แม้จะมีความคืบหน้าในการพัฒนาโปรเจกต์ แต่สถานะของเขายังคงไม่แน่นอน บรัคไฮเมอร์ยืนยันว่าเขาได้พูดคุยกับ Depp เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการกลับมารับบทบาทอันเป็นสัญลักษณ์นี้อีกครั้ง โดยปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับบทภาพยนตร์

“ถ้าเขาชอบทิศทางของบทที่เขียนขึ้น ผมคิดว่าเขาจะกลับมาทำมัน”

อย่างไรก็ตาม คำพูดดังกล่าวเป็นเพียงการแสดงทัศนะของผู้อำนวยการสร้างเท่านั้น ยังไม่มีการยืนยันหรือทำข้อตกลงอย่างเป็นทางการจากทั้งฝั่ง Disney และตัวของ Johnny Depp เอง นักแสดงยังคงไม่ได้ออกมาแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในเรื่องนี้แต่อย่างใด ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ยังคงแพร่สะพัดอย่างต่อเนื่อง รายงานบางส่วนชี้ว่า “ยังไม่มีอะไรถูกตัดออกไป” ซึ่งบ่งชี้ว่าประตูสำหรับการกลับมาของเขายังคงเปิดกว้างอยู่ และการตัดสินใจสุดท้ายอาจขึ้นอยู่กับว่าบทภาพยนตร์ฉบับใดจะถูกเลือกมาพัฒนาต่อ

การเคารพตำนาน V.S. การสร้างจักรวาลใหม่

ความท้าทายสำคัญของ Disney คือการสร้างสมดุลระหว่างการเริ่มต้นใหม่เพื่อดึงดูดผู้ชมรุ่นใหม่ และการเคารพมรดกเดิมที่ทำให้แฟรนไชส์นี้ประสบความสำเร็จ มีรายงานว่าตัวละครดั้งเดิมอย่าง แจ็ค สแปร์โรว์, วิล เทิร์นเนอร์ และ อลิซาเบธ สวอนน์ อาจปรากฏตัวในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการก็ตาม นอกจากนี้ Orlando Bloom ผู้รับบท วิล เทิร์นเนอร์ ได้แสดงความสนใจที่จะกลับมารวมตัวกับทีมนักแสดงดั้งเดิมอีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการกลับมาของ Johnny Depp ได้

การรีบูทครั้งนี้จึงมีทางเลือกสองทางที่ชัดเจน คือการเป็น “ฮาร์ดรีบูท” (Hard Reboot) ที่จะล้างกระดานและเริ่มต้นจักรวาลโจรสลัดใหม่ทั้งหมด หรือการเป็น “ซอฟต์รีบูท” (Soft Reboot) ที่จะเล่าเรื่องราวบทใหม่ภายในจักรวาลเดิม ซึ่งยังคงเปิดโอกาสให้ตัวละครเก่าๆ สามารถกลับมามีบทบาทได้ การตัดสินใจเลือกเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งจะส่งผลโดยตรงต่ออนาคตของแฟรนไชส์และตัวตนของมันในสายตาของผู้ชม

ความคืบหน้าล่าสุดและนักแสดงที่เกี่ยวข้อง

ในปัจจุบัน Disney ยังไม่ได้ประกาศกำหนดวันฉายอย่างเป็นทางการสำหรับ Pirates of the Caribbean 6 กระบวนการพัฒนายังคงดำเนินไปเบื้องหลัง และไทม์ไลน์การผลิตยังคงไม่แน่นอน นอกจากนี้ เจอร์รี บรัคไฮเมอร์ ได้ยืนยันว่านักแสดงสาว Margot Robbie ยังคงมีส่วนร่วมในโปรเจกต์ภาพยนตร์ภาคแยก ซึ่งเป็นการสยบข่าวลือที่ว่าเธอได้ถอนตัวไปแล้ว การมีอยู่ของโปรเจกต์นี้ชี้ให้เห็นว่า Disney กำลังวางแผนขยายจักรวาลโจรสลัดออกไปในหลายทิศทาง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาคหลักเพียงอย่างเดียว

บทสรุป: ทิศทางลมที่ยังไม่แน่นอน

สรุปแล้ว อนาคต Pirates of the Caribbean: รีบูทใหม่ไร้เงาเดปป์? ยังคงเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบชัดเจน การยืนยันว่าจะมีการรีบูทแฟรนไชส์ถือเป็นก้าวสำคัญ แต่ทิศทางที่แท้จริงยังคงถูกเก็บงำไว้ภายใต้กลยุทธ์การพัฒนาบทภาพยนตร์สองฉบับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความลังเลของสตูดิโอในการตัดสินใจระหว่างการสร้างสรรค์สิ่งใหม่กับการรักษาจิตวิญญาณดั้งเดิมที่ผูกติดอยู่กับตัวละครกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ การตัดสินใจของ Johnny Depp และทิศทางของบทภาพยนตร์ที่ถูกเลือก จะเป็นตัวกำหนดว่าการผจญภัยครั้งต่อไปในท้องทะเลแคริบเบียนจะออกมาในรูปแบบใด

หากตัวตนของแฟรนไชส์ผูกติดอยู่กับนักแสดงเพียงคนเดียว การสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่โดยปราศจากเขา จะยังคงเรียกว่าเป็นจิตวิญญาณเดิมได้อยู่อีกหรือไม่?