ai generated 53

รีวิว Hierarchy วังวนแค้นซ่อนเงื่อนในโรงเรียนสุดหรู

Hierarchy ซีรีส์เกาหลีจาก Netflix ที่พาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกของโรงเรียนมัธยมจูชิน สถาบันการศึกษาที่สงวนไว้สำหรับทายาทกลุ่มอภิสิทธิ์ชน 0.01% ของเกาหลีใต้ ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่มอบความรู้ แต่เป็นสังคมจำลองที่ซึ่งลำดับชั้นทางสังคมถูกขีดเส้นไว้อย่างชัดเจนด้วยอำนาจและเงินตรา การมาถึงของนักเรียนทุนคนใหม่ผู้มีความลับซ่อนเร้น ได้เข้ามาสั่นคลอนระเบียบที่ดูเหมือนจะมั่นคงให้พังทลายลง บทความ รีวิว Hierarchy วังวนแค้นซ่อนเงื่อนในโรงเรียนสุดหรู ชิ้นนี้ จะทำการวิเคราะห์และตีความสัญญะต่างๆ ที่ซีรีส์ได้นำเสนอ ทั้งในมิติของโครงสร้างอำนาจ จิตวิทยามนุษย์ และการวิพากษ์สังคมที่ซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกนอกอันสวยหรู

ภาพรวมและความรู้สึกแรก

รีวิว Hierarchy วังวนแค้นซ่อนเงื่อนในโรงเรียนสุดหรู - review-hierarchy-jooshin-high-drama

เมื่อประตูของโรงเรียนมัธยมจูชินเปิดออก สิ่งแรกที่ผู้ชมสัมผัสได้คือความหรูหราที่ฉาบเคลือบทุกอณู ตั้งแต่รถยนต์ราคาแพงที่จอดเรียงรายไปจนถึงเครื่องแบบนักเรียนที่ตัดเย็บอย่างประณีต แต่ภายใต้ภาพลักษณ์อันสมบูรณ์แบบนั้นกลับมีความเย็นชาและกฎเกณฑ์ที่มองไม่เห็นคอยควบคุมทุกย่างก้าว ซีรีส์สร้างบรรยากาศของความอึดอัด การกดขี่ และความลับดำมืดที่รอวันเปิดเผยได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรากฏตัวของ ‘คังฮา’ นักเรียนทุนปริศนา เปรียบเสมือนหินก้อนเล็กๆ ที่ถูกโยนลงไปในสระน้ำนิ่ง ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมที่ค่อยๆ ขยายวงกว้างและรุนแรงขึ้น จนทำให้ระเบียบที่เคยมีอยู่ต้องสั่นคลอน เนื้อหาไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่เรื่องราวการแก้แค้น แต่ยังชวนให้ขบคิดถึงธรรมชาติของอำนาจ และคำถามที่ว่า ‘ระเบียบ’ ที่สร้างขึ้นจากความเหลื่อมล้ำนั้น ควรค่าแก่การรักษาไว้หรือไม่

บทวิจารณ์เชิงลึก

การวิเคราะห์ซีรีส์เรื่องนี้จำเป็นต้องมองให้ลึกกว่าแค่พล็อตเรื่องรักสามเส้าหรือการกลั่นแแกล้งในโรงเรียน เพราะโรงเรียนจูชินคือภาพสะท้อนขนาดจิ๋วของสังคมโลก ที่ซึ่งผู้มีอำนาจกำหนดกฎเกณฑ์เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง และผู้ด้อยกว่าต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดหรือยอมจำนนต่อโชคชะตา ซีรีส์ใช้สัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อสื่อถึงประเด็นเหล่านี้อย่างแยบยล ทำให้การรับชมกลายเป็นการถอดรหัสความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังบทสนทนาและการกระทำของตัวละคร

โครงเรื่องและบท (Script & Plot)

แกนกลางของเรื่องราวคือการสืบสวนการตายของนักเรียนทุนคนก่อน ซึ่งเป็นพี่ชายของตัวเอก ‘คังฮา’ พล็อตการแก้แค้นนี้ทำหน้าที่เป็นเพียงตัวขับเคลื่อนเรื่องราวในช่วงแรก แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป ซีรีส์ได้ขยายขอบเขตไปสำรวจปัญหาที่ซับซ้อนกว่านั้น ทั้งความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยวระหว่างกลุ่มนักเรียนผู้ทรงอิทธิพล ปัญหาครอบครัวที่ซุกซ่อนไว้ใต้พรมของตระกูลแชโบล และการคอร์รัปชันในระบบการศึกษาที่ครูบาอาจารย์เองก็เป็นส่วนหนึ่งของกลไกการกดขี่

อย่างไรก็ตาม บทภาพยนตร์มีจุดที่น่าพิจารณาอยู่หลายประการ การวนเวียนอยู่กับฉากการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นซ้ำๆ อาจทำให้ผู้ชมบางส่วนรู้สึกเหนื่อยล้า ขณะที่ปมการสืบสวนคดีฆาตกรรมกลับดูอ่อนแรงและถูกลดทอนความสำคัญลงเมื่อเทียบกับดราม่าความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก ทำให้เป้าหมายในการแก้แค้นของตัวเอกดูไม่หนักแน่นเท่าที่ควรจะเป็น ความคล้ายคลึงกับซีรีส์วัยรุ่นไฮสคูลจากฝั่งตะวันตกอย่าง Elite นั้นเป็นสิ่งที่ปฏิเสธได้ยาก แต่ Hierarchy ยังขาดความเฉียบคมในการเล่าเรื่องและการคลี่คลายปมที่ซับซ้อนเท่ากับต้นแบบ

การแสดงและตัวละคร (Casting & Character)

ตัวละครใน Hierarchy ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของกลุ่มคนต่างๆ ในโครงสร้างทางสังคม ‘คิมรีอัน’ คือราชาผู้กุมอำนาจสูงสุด ‘จองแจอี’ คือราชินีผู้เปราะบางและเต็มไปด้วยบาดแผล และ ‘คังฮา’ คือสามัญชนผู้ท้าทายอำนาจ การคัดเลือกนักแสดงหน้าใหม่มานำเสนอเรื่องราวเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายในด้านการแสดงที่ยังต้องอาศัยประสบการณ์เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ที่ซับซ้อนของตัวละครออกมาได้อย่างเต็มที่

ในบางฉาก การแสดงออกทางอารมณ์ยังดูไม่ลึกซึ้งพอที่จะทำให้ผู้ชมเชื่อและเข้าถึงความเจ็บปวดหรือความขัดแย้งภายในใจของตัวละครได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะตัวละครฝั่งนักเรียนทุนที่แม้จะถูกกำหนดให้มีฐานะยากจน แต่ภาพลักษณ์ภายนอกกลับไม่ได้สะท้อนความลำบากนั้นออกมาอย่างชัดเจน ทำให้เส้นแบ่งทางชนชั้นที่ซีรีส์พยายามจะขีดให้เห็นนั้นดูพร่าเลือนไปบ้าง อย่างไรก็ตาม เคมีระหว่างนักแสดงหลักยังคงสามารถสร้างแรงดึงดูดและทำให้ผู้ชมอยากติดตามความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของพวกเขาต่อไป

งานสร้างและองค์ประกอบศิลป์ (Production Value)

จุดเด่นที่ไม่อาจมองข้ามของซีรีส์เรื่องนี้คืองานสร้างที่หรูหราและอลังการ โรงเรียนจูชินถูกเนรมิตขึ้นมาให้เป็นโลกอีกใบที่แยกขาดจากความเป็นจริงภายนอก การออกแบบฉาก เสื้อผ้า และอุปกรณ์ประกอบฉากล้วนสะท้อนถึงสถานะและอำนาจของตัวละครได้อย่างชัดเจน การใช้โทนสีที่ดูหม่นและเย็นชาในหลายๆ ฉาก ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศของความกดดันและความไม่น่าไว้วางใจได้เป็นอย่างดี

กระนั้น สไตล์ที่จงใจสร้างให้ดูเท่และดาร์กจนเกินไปในบางครั้งกลับให้ความรู้สึกที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนเป็นการพยายามปรุงแต่งจนขาดความสมจริงไป การกำกับภาพเน้นการจับภาพระยะใกล้เพื่อสื่อถึงอารมณ์ของตัวละคร แต่ในภาพรวมแล้ว องค์ประกอบศิลป์ที่โดดเด่นกลับไม่สามารถชดเชยจุดอ่อนของบทและการเล่าเรื่องได้ทั้งหมด ทำให้แม้ภาพจะสวยงาม แต่แก่นของเรื่องราวกลับไม่สามารถส่งไปถึงผู้ชมได้อย่างทรงพลังเท่าที่ควร

ฉาก/ไฮไลต์ที่น่าจดจำ

ฉากที่ตราตรึงและเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องราว คือฉากในงานปาร์ตี้สุดหรูที่จัดขึ้นสำหรับนักเรียนชั้นสูง ที่ซึ่ง ‘คังฮา’ นักเรียนทุนผู้เป็น “คนนอก” ได้เดินฝ่าวงล้อมของสายตาดูแคลน เข้าไปเผชิญหน้ากับ ‘จองแจอี’ ราชินีของโรงเรียนอย่างเปิดเผย การกระทำของเขาไม่ใช่แค่การท้าทาย ‘คิมรีอัน’ ผู้เป็นคนรักของเธอ แต่คือการประกาศสงครามต่อระเบียบและกฎเกณฑ์ทั้งหมดของจูชิน ฉากนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียดที่มองไม่เห็น มันคือการปะทะกันระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่ ระหว่างผู้ถูกกดขี่และผู้กดขี่ และเป็นวินาทีที่ทำให้ทุกคนในที่นั้นตระหนักว่า การมาของเด็กหนุ่มคนนี้จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไปตลอดกาล

โรงเรียนจูชินไม่ได้สอนแค่ความรู้ แต่สอนให้รู้จักที่ของตัวเองในห่วงโซ่อาหารแห่งอำนาจ และผู้ที่พยายามปีนข้ามชั้น คือผู้ที่ต้องถูกกำจัด

สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ

  • สิ่งที่ชอบ: การหยิบยกประเด็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมมานำเสนอในบริบทของโรงเรียนมัธยมปลาย ซึ่งเป็นแนวคิดที่มีศักยภาพและน่าสนใจ การสร้างโลกของจูชินที่เต็มไปด้วยความหรูหราแต่แฝงด้วยความเน่าเฟะทำได้อย่างน่าเชื่อถือ และตัวละครเอก ‘คังฮา’ ที่มีความลึกลับน่าค้นหาในช่วงแรก
  • สิ่งที่ไม่ชอบ: การพัฒนาของพล็อตการแก้แค้นที่อ่อนแรงและขาดความน่าติดตามในช่วงกลางเรื่อง การแสดงของนักแสดงบางคนที่ยังไม่สามารถถ่ายทอดความซับซ้อนของตัวละครได้เต็มที่ และบทสรุปที่ผลกรรมของตัวละครฝ่ายอภิสิทธิ์ชนดูเบาบางเกินไป ทำให้สารที่ซีรีส์ต้องการจะสื่อเรื่องความยุติธรรมดูอ่อนลงอย่างน่าเสียดาย
ตารางวิเคราะห์องค์ประกอบของซีรีส์ Hierarchy
องค์ประกอบ จุดเด่น จุดที่น่าพิจารณา
โครงเรื่องและบท ตั้งคำถามเรื่องชนชั้นและอำนาจได้อย่างน่าสนใจในช่วงต้น พล็อตการแก้แค้นขาดความเข้มข้น ประเด็นย่อยถูกทิ้งขว้าง และวนเวียนกับดราม่าเดิมๆ
การแสดงและตัวละคร นักแสดงมีภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกับบทบาทที่ได้รับ การแสดงออกทางอารมณ์ยังขาดความลึกซึ้ง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงตัวละครได้เต็มที่
งานสร้างและองค์ประกอบศิลป์ โปรดักชันหรูหราสมจริง สะท้อนโลกของอภิสิทธิ์ชนได้ดี สไตล์ที่จงใจให้ดูมืดมนและซับซ้อน บางครั้งกลับดูไม่เป็นธรรมชาติและขาดความสมจริง
ประเด็นทางสังคม กล้าที่จะสะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำและการใช้อำนาจในทางที่ผิด บทสรุปที่ดูประนีประนอมและผลกรรมที่เบาบาง ลดทอนความหนักแน่นของประเด็นที่ปูมา

บทสรุปและคะแนน

Hierarchy เปรียบเสมือนภาพวาดที่สวยงามแต่ไร้วิญญาณ มันมีวัตถุดิบชั้นดีในการวิพากษ์วิจารณ์โครงสร้างสังคมที่บิดเบี้ยว แต่กลับล้มเหลวในการปรุงแต่งเรื่องราวให้กลมกล่อมและทรงพลัง ซีรีส์นำเสนอโลกที่น่าสนใจและตัวละครที่มีมิติซับซ้อนได้ แต่ไม่สามารถพัฒนาศักยภาพเหล่านั้นไปสู่จุดสูงสุดได้ การเล่าเรื่องที่ขาดความเฉียบคมและบทสรุปที่น่าผิดหวังทำให้มันเป็นเพียงซีรีส์วัยรุ่นไฮสคูลอีกเรื่องหนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แม้จะพยายามตั้งคำถามสำคัญต่อสังคม แต่คำตอบที่ให้กลับเบาหวิวและจางหายไปกับความหรูหราของฉากหลัง

หากโครงสร้างอำนาจที่กดขี่คือสิ่งเดียวที่ค้ำจุนระเบียบของสังคมไว้ การทลายมันลงจะนำไปสู่ความเท่าเทียมหรือความโกลาหลที่เลวร้ายกว่าเดิม?

คะแนน (Score)

5/10

ซีรีส์ที่มีแนวคิดทะเยอทะยาน แต่สะดุดล้มด้วยบทที่อ่อนแรงและการเล่าเรื่องที่ขาดความเข้มข้น แม้จะมีงานสร้างที่น่าประทับใจ แต่ก็ไม่สามารถทดแทนแก่นเรื่องที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันได้

คำแนะนำ (Recommendation)

เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์แนวดราม่าในโรงเรียนมัธยมของกลุ่มคนชั้นสูง ที่เน้นเรื่องความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและภาพลักษณ์ที่สวยงาม หากเป็นแฟนของซีรีส์อย่าง Gossip Girl, The Heirs หรือ Elite อาจจะพบความเพลิดเพลินได้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับผู้ที่มองหาซีรีส์แนวสืบสวนแก้แค้นที่เข้มข้นและบทภาพยนตร์ที่เฉียบคม อาจจะต้องลดความคาดหวังลงพอสมควร

บทความรีวิวมาใหม่