ai generated 443

รีวิว Hierarchy วังวนแค้นชนชั้นสูง สนุกสมคำร่ำลือ?

ซีรีส์เกาหลีแนวโรงเรียนมัธยมปลายที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการต่อสู้ของชนชั้นยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง และ Hierarchy (วังวนแค้นชนชั้นสูง) คือผลงานล่าสุดจาก Netflix ที่เข้ามาท้าทายในสมรภูมินี้ ด้วยการนำเสนอเรื่องราวภายในโรงเรียนมัธยมจูชิน สถาบันที่สงวนไว้สำหรับทายาทตระกูลชั้นนำของประเทศ 0.01% แรก แต่การมาถึงของนักเรียนทุนคนใหม่ผู้มีความลับซ่อนอยู่ ได้จุดชนวนให้ระเบียบที่ดูเหมือนมั่นคงต้องสั่นคลอน

ประเด็นสำคัญที่ซีรีส์ต้องการนำเสนอ:

  • การสะท้อนปัญหาสังคม: ซีรีส์เจาะลึกถึงโครงสร้างอำนาจที่ไม่เท่าเทียม การกลั่นแกล้ง และอภิสิทธิ์ที่ฝังรากลึกในสถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นภาพจำลองของสังคมในวงกว้าง
  • พล็อตแก้แค้นที่คุ้นเคย: เรื่องราวขับเคลื่อนด้วยการสืบหาความจริงเบื้องหลังการตายปริศนาของนักเรียนทุนคนก่อน ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จที่พบเห็นได้บ่อยในซีรีส์เกาหลีแนวนี้
  • ภาพลักษณ์และนักแสดง: จุดเด่นสำคัญคือทีมนักแสดงดาวรุ่งที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และงานสร้างที่หรูหราอลังการ ทำให้ซีรีส์มีความน่าดึงดูดทางสายตาอย่างมาก
  • เสียงวิจารณ์ที่แตกออกเป็นสองฝั่ง: แม้จะได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม แต่ซีรีส์กลับได้รับคำวิจารณ์ที่หลากหลาย ทั้งในแง่บวกด้านงานภาพ และแง่ลบด้านความเข้มข้นของบทที่ยังไม่ถึงใจเท่าที่ควร

ภาพรวมและความรู้สึกแรก

รีวิว Hierarchy วังวนแค้นชนชั้นสูง สนุกสมคำร่ำลือ? - review-hierarchy-korean-series-netflix

เมื่อพิจารณาถึงการตั้งคำถามที่ว่า รีวิว Hierarchy วังวนแค้นชนชั้นสูง สนุกสมคำร่ำลือ? คำตอบที่ได้อาจไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันสำหรับทุกคน ซีรีส์เรื่องนี้เปรียบเสมือนอาหารจานหรูที่จัดแต่งอย่างสวยงาม แต่รสชาติกลับไม่จัดจ้านอย่างที่คาดหวัง Hierarchy เปิดฉากด้วยบรรยากาศลึกลับน่าติดตามในรั้วโรงเรียนมัธยมปลายจูชิน ที่ซึ่งกฎเกณฑ์ทุกอย่างถูกกำหนดโดยกลุ่มนักเรียนทายาทมหาเศรษฐี นำโดย คิม รีอัน (คิมแจวอน) และราชินีของโรงเรียน จอง แจอี (โนจองอี) ความสงบสุขจอมปลอมนี้ถูกท้าทายโดย คังฮา (อีแชมิน) นักเรียนทุนคนใหม่ที่เข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มสดใสแต่แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเปิดโปงความจริงบางอย่าง ความรู้สึกแรกหลังชมคือความประทับใจในงานสร้างที่ดูลงทุนมหาศาล แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไป กลับพบว่าแก่นของเรื่องราวและการแก้แค้นนั้นเบาบางกว่าที่คาดไว้มาก

บทวิจารณ์เชิงลึก

ซีรีส์แนว High School Drama ที่มีประเด็นเรื่องชนชั้นได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะมันสะท้อนความกังวลและความจริงอันโหดร้ายของสังคมสมัยใหม่ได้อย่างตรงไปตรงมา Hierarchy ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมกลุ่มนี้ โดยออกอากาศทาง Netflix ในเดือนมิถุนายน 2024 และมุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้ชมที่ชื่นชอบเรื่องราวดราม่าในโรงเรียน ความรักของหนุ่มสาว และปมปริศนาฆาตกรรม แต่ทว่าซีรีส์กลับเดินตามรอยความสำเร็จของรุ่นพี่อย่าง The Glory, Pyramid Game หรือแม้กระทั่งซีรีส์สเปนอย่าง Elite โดยขาดซึ่งเอกลักษณ์และความกล้าที่จะฉีกกรอบเดิมๆ

โครงเรื่องและบท (Script & Plot)

จุดอ่อนที่ชัดเจนที่สุดของ Hierarchy คือโครงเรื่องและบทที่ขาดความแปลกใหม่ พล็อตหลักว่าด้วยการที่ตัวเอกแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มอภิสิทธิ์ชนเพื่อล้างแค้นให้น้องชาย/เพื่อนที่เสียชีวิต เป็นโครงสร้างที่ผู้ชมคุ้นเคยเป็นอย่างดี ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความซ้ำซาก แต่เป็นการดำเนินเรื่องที่ไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมทางอารมณ์ได้เท่าที่ควร ปมปริศนาการตายถูกคลี่คลายอย่างรวดเร็วและไม่ซับซ้อน ทำให้ความตึงเครียดที่ควรจะค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปนั้นหายไป

การแก้แค้นของคังฮาที่ควรจะเป็นไฮไลต์ กลับกลายเป็นเพียงการยั่วโมโหเล็กๆ น้อยๆ และไม่ได้สร้างความเสียหายรุนแรงให้กับกลุ่มผู้มีอำนาจอย่างที่ผู้ชมคาดหวัง บทสนทนาหลายครั้งวนเวียนอยู่กับเรื่องความรักใคร่และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของตัวละครหลัก ซึ่งบดบังประเด็นการต่อสู้ทางชนชั้นที่ควรจะเป็นหัวใจของเรื่องไปอย่างน่าเสียดาย ผลลัพธ์ที่ตัวร้ายได้รับในตอนท้ายนั้นดูเบาบางและไม่สาสมกับการกระทำ ทำให้ผู้ชมที่รอคอยฉากล้างแค้นที่สะใจอาจต้องผิดหวัง

โครงสร้างของอำนาจในโรงเรียนจูชินไม่ได้ถูกท้าทายอย่างแท้จริง แต่เป็นเพียงการเปิดแผลให้เห็นหนองข้างใน ก่อนจะถูกปิดทับด้วยผ้าพันแผลผืนใหม่ที่ดูสะอาดตากว่าเดิม

การแสดงและตัวละคร (Casting & Character)

สิ่งที่ช่วยประคับประคองซีรีส์ไว้ได้คือทีมนักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตามอง อีแชมิน ในบท คังฮา สามารถถ่ายทอดความมุ่งมั่นและความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ โนจองอี ในบท จอง แจอี ก็แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของราชินีที่ถูกกักขังอยู่ในกรงทองได้อย่างน่าเห็นใจ เคมีระหว่างนักแสดงหลักถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้เรื่องราวความสัมพันธ์ของพวกเขาน่าติดตาม แม้ว่าบทจะไม่ได้ส่งเสริมมิติของตัวละครมากนักก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ตัวละครสมทบหลายตัวกลับถูกทิ้งให้เป็นเพียงภาพร่างที่ไม่มีความลึกซึ้ง พวกเขาทำหน้าที่เป็นเพียงเครื่องมือในการขับเคลื่อนพล็อตมากกว่าที่จะเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจของตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนที่ร่ำรวยซึ่งมักจะแสดงออกถึงความเลวร้ายอย่างไม่มีเหตุผลรองรับ ทำให้ขาดความสมจริงและกลายเป็นตัวละครแบนๆ ที่ผู้ชมไม่รู้สึกผูกพันหรือเกลียดชังอย่างสุดใจ

งานสร้างและองค์ประกอบศิลป์ (Production Value)

ในด้านงานสร้าง Hierarchy ทำได้อย่างยอดเยี่ยมและไม่มีที่ติ โรงเรียนมัธยมจูชินถูกเนรมิตขึ้นมาให้ดูหรูหราและยิ่งใหญ่ สมกับเป็นสถานที่สำหรับชนชั้นสูงของประเทศ การออกแบบฉาก เสื้อผ้าหน้าผมของนักแสดง ไปจนถึงการถ่ายภาพ (Cinematography) ล้วนแล้วแต่มีความประณีตและสวยงามทุกกระเบียดนิ้ว โทนสีของเรื่องที่เน้นความขรึมและเยือกเย็นช่วยเสริมบรรยากาศของความลับและความไม่น่าไว้วางใจได้เป็นอย่างดี ดนตรีประกอบก็ถูกเลือกใช้มาอย่างเหมาะสมเพื่อสร้างอารมณ์ในแต่ละฉาก หากจะตัดสินซีรีส์เรื่องนี้จากรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว Hierarchy ก็ถือว่าสอบผ่านฉลุย

ฉาก/ไฮไลต์ที่น่าจดจำ

แม้ภาพรวมจะขาดจุดพีค แต่มีฉากหนึ่งที่สามารถสรุปแก่นของเรื่องราวได้ดี นั่นคือ “ฉากเผชิญหน้าในห้องประชุมลับ” ซึ่งเป็นสถานที่ที่กลุ่มนักเรียนผู้ทรงอิทธิพลใช้ตัดสินชะตากรรมของคนอื่น เมื่อคังฮาบุกเข้าไปในห้องนั้น ไม่ใช่ด้วยการใช้กำลัง แต่ด้วยการเปิดโปงความลับที่น่าอับอายของแต่ละคนผ่านจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ ฉากนี้ไม่ได้มีความรุนแรงทางกายภาพ แต่เป็นการทำลายล้างทางสถานะและเกียรติยศ ซึ่งเป็นสิ่งที่เหล่าชนชั้นสูงให้ความสำคัญมากกว่าชีวิตเสียอีก มันแสดงให้เห็นว่าอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดในการต่อสู้กับผู้มีอำนาจไม่ใช่กำลัง แต่คือ “ความจริง” ที่พวกเขาพยายามซุกซ่อนไว้ใต้พรม

สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ

เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถสรุปข้อดีและข้อเสียของซีรีส์ได้ดังนี้:

  • สิ่งที่ชอบ:
    • นักแสดงนำ: ทีมนักแสดงรุ่นใหม่มีเสน่ห์ดึงดูดและสามารถถ่ายทอดบทบาทของตนเองได้ดี ทำให้เคมีระหว่างตัวละครเป็นจุดที่น่าสนใจ
    • งานภาพและโปรดักชัน: ซีรีส์มีภาพที่สวยงาม หรูหรา และลงทุนสูง ทุกองค์ประกอบด้านภาพมีความสวยงามและช่วยเสริมสร้างโลกของเรื่องได้อย่างน่าเชื่อถือ
    • การตั้งคำถามต่อโครงสร้างสังคม: แม้จะไม่ได้เจาะลึก แต่ซีรีส์ก็ประสบความสำเร็จในการจุดประกายให้ผู้ชมได้ขบคิดเกี่ยวกับปัญหาความเหลื่อมล้ำและอภิสิทธิ์ในสังคม
  • สิ่งที่ไม่ชอบ:
    • บทที่อ่อนและคาดเดาง่าย: พล็อตเรื่องเดินตามสูตรสำเร็จของแนวแก้แค้นในโรงเรียน ทำให้ขาดความสดใหม่และความตื่นเต้น
    • การดำเนินเรื่องที่ขาดความเข้มข้น: เรื่องราวขาดจุดไคลแมกซ์ที่น่าจดจำ การแก้แค้นไม่รุนแรงและบทสรุปของตัวร้ายไม่สะใจเท่าที่ควร
    • การพัฒนาตัวละครที่ผิวเผิน: ตัวละครหลายตัวมีมิติเดียวและขาดแรงจูงใจที่สมเหตุสมผล ทำให้ผู้ชมไม่สามารถอินไปกับเรื่องราวได้อย่างเต็มที่
ตารางเปรียบเทียบซีรีส์แนวแก้แค้นในโรงเรียน เพื่อให้เห็นภาพบริบทของ Hierarchy ในตลาดซีรีส์ปัจจุบัน
คุณสมบัติ Hierarchy Pyramid Game The Glory
ความเข้มข้นของพล็อต ปานกลาง สูง สูงมาก
ความแปลกใหม่ ต่ำ (ใช้สูตรสำเร็จ) สูง (นำเสนอในรูปแบบเกมจิตวิทยา) ปานกลาง (พล็อตแก้แค้นคลาสสิกแต่ลงลึก)
ความสะใจในการแก้แค้น ต่ำ สูง สูงมาก
งานสร้างและภาพ สูง (เน้นความหรูหรา) ปานกลาง (เน้นความสมจริง) สูง (เน้นความมีศิลปะและสัญลักษณ์)

บทสรุปและคะแนน

สรุปแล้ว Hierarchy (วังวนแค้นชนชั้นสูง) เป็นซีรีส์ที่ดูได้เพลินๆ ด้วยงานภาพที่สวยงามและนักแสดงที่น่าดึงดูด แต่หากคาดหวังว่าจะได้พบกับมหากาพย์การล้างแค้นที่เข้มข้นและบทวิพากษ์สังคมที่เฉียบคม อาจจะต้องลดความคาดหวังลง ซีรีส์เรื่องนี้มีวัตถุดิบชั้นดีอยู่ในมือ แต่กลับปรุงรสออกมาได้ไม่ถึงเครื่อง ทำให้เป็นเพียงซีรีส์ที่ “เกือบจะดี” แต่ยังไม่สามารถก้าวไปถึงจุดสูงสุดของซีรีส์ในแนวเดียวกันได้ มันเหมือนกับการมองดูพายุที่ตั้งเค้ามาอย่างยิ่งใหญ่ แต่สุดท้ายกลับมีเพียงสายฝนโปรยปรายลงมาเบาๆ เท่านั้น

คะแนน (Score)

6/10

เป็นซีรีส์ที่โดดเด่นด้านภาพและนักแสดง แต่ยังขาดความลึกและความเข้มข้นของบท ทำให้ไม่สามารถสร้างแรงกระแทกทางอารมณ์ได้เท่าที่ควร

คำแนะนำ (Recommendation)

ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับ:

  • แฟนคลับของนักแสดงนำอย่าง อีแชมิน, โนจองอี และคิมแจวอน
  • ผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์แนวดราม่าในโรงเรียนมัธยมที่มีงานภาพสวยงามและโปรดักชันอลังการ
  • ผู้ที่มองหาซีรีส์ดูง่ายๆ จำนวน 7 ตอนจบ โดยไม่ต้องคิดวิเคราะห์ซับซ้อนมากนัก

อาจไม่เหมาะสำหรับ:

  • ผู้ชมที่คาดหวังการล้างแค้นที่ดุเดือด สะใจ และวางแผนมาอย่างแยบยลแบบ The Glory หรือ The Penthouse
  • ผู้ที่มองหาพล็อตเรื่องที่สดใหม่และเต็มไปด้วยการหักมุมที่คาดไม่ถึงแบบ Pyramid Game

ท้ายที่สุดแล้ว การดำรงอยู่ของ “ชนชั้น” ในสังคมนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือเป็นสภาวะตามธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้?

บทความรีวิวมาใหม่