จักรวาล DCU ใหม่ของ James Gunn มีหนังเรื่องอะไรบ้าง?
การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของจักรวาลภาพยนตร์ DC ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ ภายใต้การนำของสองหัวเรือใหญ่อย่างเจมส์ กันน์ และปีเตอร์ ซาฟราน คำถามที่แฟน ๆ ทั่วโลกต่างจับตามองคือ จักรวาล DCU ใหม่ของ James Gunn มีหนังเรื่องอะไรบ้าง? การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างภาพยนตร์ภาคต่อ แต่คือการรีบูตจักรวาลทั้งหมดเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงและเรื่องราวที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบในระยะยาว โดยจะเริ่มต้นด้วยบทแรกที่ใช้ชื่อว่า “Gods and Monsters” ซึ่งประกอบไปด้วยภาพยนตร์และซีรีส์จำนวนมากที่ถูกวางแผนไว้เป็นอย่างดี
ประเด็นสำคัญที่ต้องรู้

- จักรวาล DCU ใหม่เป็นแผนงานระยะยาว 10 ปี ที่นำโดยเจมส์ กันน์ และปีเตอร์ ซาฟราน เพื่อสร้างเรื่องราวที่เชื่อมโยงกันทั้งหมด
- บทแรกของจักรวาลนี้มีชื่อว่า “Chapter 1: Gods and Monsters” ซึ่งจะประกอบด้วยภาพยนตร์และซีรีส์รวม 10 เรื่อง
- แม้ทุกเรื่องจะอยู่ในจักรวาลเดียวกัน แต่จะมีความโดดเด่นและโทนเรื่องที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผู้ชม
- โปรเจกต์แรกที่ได้ออกฉายคือซีรีส์แอนิเมชันสำหรับผู้ใหญ่เรื่อง ‘Creature Commandos’ ตามด้วยภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง ‘Superman’ ที่จะเป็นหมุดหมายสำคัญของจักรวาล
ภาพรวมและวิสัยทัศน์: การถือกำเนิดใหม่ของจักรวาล DC
จักรวาล DC Universe (DCU) ใหม่ ถือเป็นการยกเครื่องครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่มีการสร้างภาพยนตร์จากคอมิกส์ของ DC วิสัยทัศน์ของเจมส์ กันน์ และปีเตอร์ ซาฟราน คือการสร้างจักรวาลที่เชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์, ซีรีส์คนแสดง, แอนิเมชัน หรือแม้แต่วิดีโอเกม ทุกสื่อจะบอกเล่าเรื่องราวที่อยู่ในไทม์ไลน์และโลกเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของ DC Extended Universe (DCEU) ในอดีตที่มักจะมีปัญหาด้านความต่อเนื่องของเนื้อหา
แผนงานนี้ถูกวางไว้เป็นระยะยาวถึง 10 ปี โดยแบ่งเรื่องราวออกเป็น “บท” (Chapter) คล้ายกับการเล่าเรื่องในหนังสือการ์ตูน ซึ่งบทแรกที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นคือ “Chapter 1: Gods and Monsters” ชื่อของบทนี้บ่งบอกถึงธีมหลักที่จะมุ่งเน้นไปที่ตัวละครที่มีพลังเหนือมนุษย์ ทั้งในแง่ของความเป็นเทพเจ้าและอสุรกาย ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่การสำรวจมิติที่ลึกซึ้งและซับซ้อนยิ่งขึ้นของตัวละครเหล่านี้ การวางแผนระยะยาวเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง เพื่อให้เรื่องราวสามารถแตกแขนงออกไปได้อย่างมีทิศทางและไม่เกิดความสับสนในอนาคต
การวางโครงสร้างจักรวาล: เอกภาพท่ามกลางความหลากหลาย
หัวใจสำคัญของ DCU ใหม่คือการสร้าง “เอกภาพ” ให้กับทุกเรื่องราว แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดกว้างให้ผู้สร้างสรรค์แต่ละคนได้ใส่ “เอกลักษณ์” ของตนเองลงไปในผลงานได้อย่างเต็มที่ เจมส์ กันน์ ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าแม้ทุกโปรเจกต์จะเชื่อมโยงกัน แต่จะไม่มีการบังคับให้ทุกเรื่องต้องมีโทนและอารมณ์แบบเดียวกันทั้งหมด
“แม้ว่าหนังและซีรีส์ต่างๆ จะอยู่ในจักรวาล DCU เดียวกัน แต่ทุกเรื่องจะมีเอกลักษณ์และโทนสีของตัวเองที่ไม่ซ้ำกัน”
แนวทางนี้คือการหลีกเลี่ยงความซ้ำซากจำเจและมอบประสบการณ์ที่สดใหม่ให้กับผู้ชมในทุกครั้ง ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์ ‘Superman’ จะถูกนำเสนอในโทนที่สดใสและเปี่ยมด้วยความหวัง สะท้อนถึงแก่นแท้ของตัวละครซูเปอร์แมน ในขณะที่โปรเจกต์เกี่ยวกับตัวละครอย่าง Clayface อาจจะมีกลิ่นอายของความเป็นภาพยนตร์สยองขวัญแนว Body Horror ที่เน้นความน่ากลัวของการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย หรือภาพยนตร์ ‘Supergirl’ ที่จะพาผู้ชมไปสำรวจโลกแฟนตาซีไซไฟในอวกาศอันกว้างใหญ่ ความหลากหลายทางแนวทางนี้ไม่เพียงแต่จะดึงดูดกลุ่มผู้ชมที่แตกต่างกัน แต่ยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเรื่องราวซูเปอร์ฮีโร่สามารถถูกตีความและนำเสนอได้ในหลากหลายรูปแบบ
โปรเจกต์ที่เปิดตัวแล้วใน Chapter 1: Gods and Monsters
แม้ว่าแผนการทั้งหมดของ “Gods and Monsters” จะประกอบด้วย 10 โปรเจกต์ แต่ข้อมูลที่เปิดเผยอย่างเป็นทางการในปัจจุบันได้ให้รายละเอียดของโปรเจกต์นำร่องสองเรื่องแรก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของจักรวาล DCU ใหม่
Creature Commandos: การเริ่มต้นที่แตกต่าง
โปรเจกต์แรกสุดที่ได้ออกสู่สายตาผู้ชมคือ ‘Creature Commandos’ ซีรีส์แอนิเมชันสำหรับผู้ใหญ่ (เรต TV-MA) ซึ่งเริ่มฉายในวันที่ 5 ธันวาคม 2024 การเลือกเปิดจักรวาลด้วยแอนิเมชันถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เพราะเป็นการส่งสัญญาณว่า DCU ใหม่จะให้ความสำคัญกับสื่อทุกรูปแบบเท่าเทียมกัน และไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาพยนตร์คนแสดงเท่านั้น ‘Creature Commandos’ เป็นเรื่องราวของทีมอสุรกายที่ถูกรวบรวมมาเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษ ซึ่งเป็นการแนะนำตัวละครที่ไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างให้ผู้ชมได้คุ้นเคย และยังเป็นการโชว์โทนเรื่องที่ดิบและแตกต่างออกไปจากภาพจำเดิม ๆ ของ DC
Superman: เสาหลักแห่งจักรวาลใหม่
หาก ‘Creature Commandos’ คือการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ ภาพยนตร์เรื่อง ‘Superman’ ก็คือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการและยิ่งใหญ่ที่สุดของ Chapter 1 ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะแนะนำซูเปอร์แมนคนใหม่ให้กับโลก แต่ยังต้องทำหน้าที่เป็นเสาหลักในการวางรากฐานทางด้านโทนเรื่องและทิศทางของจักรวาลทั้งหมด การให้ความสำคัญกับ ‘Superman’ เป็นอันดับแรกสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่จะกลับไปสู่แก่นแท้ของความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ คือการเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและคุณงามความดี ซึ่งจะเป็นรากฐานทางความคิดที่สำคัญ ก่อนที่จักรวาลจะขยายไปสู่เรื่องราวที่มืดมนและซับซ้อนยิ่งขึ้นในโปรเจกต์อื่น ๆ ต่อไป
| ชื่อโปรเจกต์ | รูปแบบ | สถานะ | บทบาทในจักรวาล |
|---|---|---|---|
| Creature Commandos | ซีรีส์แอนิเมชัน | ออกอากาศแล้ว (5 ธ.ค. 2024) | โปรเจกต์เปิดตัวจักรวาล แนะนำโทนเรื่องที่หลากหลายและตัวละครกลุ่มใหม่ |
| Superman | ภาพยนตร์ | กำลังดำเนินการสร้าง | ภาพยนตร์หลักเรื่องแรก เป็นรากฐานสำคัญและกำหนดทิศทางของจักรวาลใหม่ |
บทสรุปและทิศทางในอนาคต
จักรวาล DCU ใหม่ภายใต้วิสัยทัศน์ของเจมส์ กันน์ และปีเตอร์ ซาฟราน คือการเดิมพันครั้งสำคัญที่มาพร้อมกับแผนงานที่ชัดเจนและน่าติดตาม การเริ่มต้นด้วย “Chapter 1: Gods and Monsters” แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่จะสร้างเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่และเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ โดยไม่ละทิ้งความคิดสร้างสรรค์และเอกลักษณ์ของแต่ละผลงาน แม้ว่ารายชื่อโปรเจกต์ทั้ง 10 เรื่องยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมด แต่การเริ่มต้นด้วย ‘Creature Commandos’ และ ‘Superman’ ก็เป็นเครื่องยืนยันถึงความหลากหลายและทิศทางที่ชัดเจนของจักรวาลนี้ได้เป็นอย่างดี
อนาคตของ DC บนจอภาพยนตร์และสื่อต่าง ๆ กำลังจะถูกเขียนขึ้นใหม่ และนี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับแฟน ๆ ที่จะได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการสร้างตำนานบทใหม่ไปพร้อม ๆ กัน
คะแนนภาพรวมของแผนการ DCU ใหม่
8/10
แผนการของ DCU ใหม่มีความชัดเจนและทะเยอทะยาน การสร้างจักรวาลที่เชื่อมโยงแต่ยังคงความหลากหลายของโทนเรื่องถือเป็นจุดแข็งที่น่าจับตามอง แม้จะต้องรอการพิสูจน์จากผลงานจริง แต่วิสัยทัศน์ที่วางไว้ถือเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงและน่าคาดหวังอย่างยิ่ง
เมื่อเหล่าเทพเจ้าและอสุรกายถูกนำมาเล่าใหม่ในโลกยุคปัจจุบัน เส้นแบ่งระหว่างมนุษย์และสิ่งที่เหนือกว่านั้นจะยังคงเดิมอยู่หรือไม่?
